ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ของไทยส่งจดหมายเปิดผนึกถึง กอง บก.นิตยสารไทม์ กรณีลงบทสัมภาษณ์นายกฯ ไทย โดยตำหนิ 'ไทม์' บิดเบือนข้อเท็จจริงและวิสัยทัศน์ของ 'ประยุทธ์'

นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกของ กต. ลงวันที่ 3 ก.ค. 2561 ส่งถึงกองบรรณาธิการนิตยสารไทม์ ในสหรัฐอเมริกา ระบุในจดหมายว่า บทสัมภาษณ์พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เผยแพร่ในนิตยสารไทม์ฉบับพิมพ์ วันที่ 2 ก.ค. 2561 มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในส่วนของวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี

จดหมายระบุว่า ผู้เขียนมีเจตนาที่ในการเลือกใช้ข้อมูลที่โจมตีนายกรัฐมนตรีไทย ทั้งยังมีการตั้งแนวทางการเขียนในใจอยู่แล้วก่อนที่จะมาสัมภาษณ์ ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวของผู้เขียนเป็นการสนับสนุนฝ่ายที่เห็นตรงข้ามกับนายกรัฐมนตรี สะท้อนจากการเผยแพร่ความคิดเห็นเชิงลบของกลุ่มเอ็นจีโอและกลุ่มการเมืองต่างๆ แต่ไม่ได้สะท้อนความเห็นส่วนใหญ่ของภาคประชาชนในปัจจุบันของประเทศไทย ส่งผลให้ผู้อ่านทั่วโลก 'เข้าใจผิด'

น.ส.บุษฎียังกล่าวย้ำในจดหมายด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญและเคารพต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นรากฐานสำคัญของสังคมประชาธิปไตย แต่บทวิเคราะห์ของผู้เขียนบทความในนิตยสารไทม์ ที่กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวะ ‘ถดถอยสู่ระบอบอำนาจนิยมอย่างถาวร’ นั้น เป็นการกล่าวหาที่เกินจริง โดยไม่ได้พิจารณาถึงแผนการางรากฐานประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน หรือโรดแมปของรัฐบาลที่เคยประกาศไว้

https://timedotcom.files.wordpress.com/2018/06/hk_g1500_thaipm.jpg?quality=85&w=840

ทั้งนี้ตามข้อเท็จจริง นับตั้งแต่รัฐบาลชุดดังกล่าวได้เข้ามาบริหารประเทศ พบว่าอันดับและสถิติต่างๆ ที่ประเมินโดยนานาชาติมีการขยับขึ้นในเชิงบวก สะท้อนให้เห็นว่ามีการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นรูปธรรมและเกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะเรื่องยากที่เป็นรากฐานของสังคม เช่น การปราบปรามการค้ามนุษย์และการประมงที่ผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลแรกที่ได้ประกาศให้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ 

พร้อมกันนี้ เนื้อหาในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมไปถึงการวางพื้นฐานและวิสัยทัศน์ในระยะยาวในการริเริ่มนโยบายประเทศไทย 4.0 และโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่มีรากฐานทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมใหม่ที่แข็งแกร่ง

นอกจากนี้ อธิบดีกรมสารนิเทศยังได้ตำหนิการนิยามพลเอกประยุทธ์ว่า 'สฤษดิ์น้อย' โดยระบุว่าเป็นการเทียบบริบทที่ผิดฝาผิดตัวกันอย่างสิ้นเชิง พร้อมทั้งแก้ต่างว่า คนในสังคมไทยนั้นเรียกพลเอกประยุทธ์ว่า 'ลุงตู่' ซึ่งสะท้อนถึงบุคลิกภาพและความเปิดกว้างที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ เสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว

ส่วนนิตยสารไทม์ฉบับพิมพ์ ประจำวันที่ 2 ก.ค. ซึ่งนำภาพ พล.อ. ประยุทธ์ ขึ้นปก มีการพาดหัวว่า 'ประชาธิปไตย' และ 'เผด็จการ' "ประเทศไทยภายใต้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเลือกเส้นทางใด?"

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ และสมาชิกรัฐบาลจะยืนยันว่าไม่ได้มีคำสั่งห้ามนำเข้านิตยสารไทม์ฉบับดังกล่าว แต่ร้านหนังสือแฟรนไชส์ในไทยที่เป็นผู้นิตยสารต่างประเทศ ยืนยันว่า 'ไม่นำเข้า' นิตยสารไทม์ ปก พล.อ.ประยุทธ์ เพราะ 'มีเนื้อหาไม่เหมาะสม' แต่ไม่ระบุว่า เนื้อหาส่วนใดในนิตยสารที่ถือว่าเป็นปัญหาจนทางบริษัทตัดสินใจไม่นำเข้า

time1.jpgtime2.jpg

ข่าวที่เกี่ยวข้อง