นายคัตซึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีสาธารณสุขของญี่ปุ่น กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย โดยหนึ่งในนั้นมีคนขับรถบัสชาวญี่ปุ่น ผู้ขับรถบัสรับนักท่องเที่ยวจีนที่มาจากอู่ฮั่น 2 กลุ่มเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม
คนขับรถบัสชาวญี่ปุ่น วัย 69 ปีไม่เคยมีประวัติเดินทางไปยังประเทศจีนในช่วงที่มีการระบาด แต่ในช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาชายคนดังกล่าวได้ขับรถบัสให้กับนักท่องเที่ยวที่มาจากอู่ฮั่น ประเทศจีนจำนวน 2 กลุ่ม ซึ่งอาจได้รับเชื้อไวรัสฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่ในแคว้นบาวาเรียของเยอรมนีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายแรกของประเทศ โดยทางหน่วยงานสาธารณสุขแคว้นบาวาเรียระบุว่า ชายคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากหญิงสาวเพื่อนร่วมงาน ชาวจีนจากเซี่ยงไฮ้ที่มาอบรมกับทางบริษัทในเยอรมนี
ทั้งนี้พบว่าหญิงชาวเซี่ยงไฮ้คนดังกล่าวมีอาการป่วยในช่วงที่กำลังจะเดินทางกลับจีนเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามทางแคว้นบาวาเรีย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อวไวรัสโคโรนายังอยู่ในระดับที่ต่ำ และชายผู้ติดเชื้อไวรัสได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลและยังอยู่ระยะที่ปลอดภัย
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมาทางคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน ระบุว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต้นตอแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่นสามารถติดต่อจากคนสู่คน หลังจากพบว่าบุคลาการทางการแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสฯก็ได้รับเชื้อไวรัสฯจากการสัมผัสกับผู้ป่วย
และเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา หม่าเสี่ยวเว่ย ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งประเทศจีนแถลงข่าวในประเทศ ระบุว่า ระยะฟักตัวของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019 n-CoV) อยู่ที่ประมาณ 1-14 วัน ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการเจ็บป่วยให้เห็นในช่วงนี้ แต่เชื้อโรคสามารถติดต่อกันได้
ทางด้านองค์การอนามัยโลกออกมายอมรับว่า WHO ประเมินการแพร่ระบาดผิดไปซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทาง WHO ระบุว่า สถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสทั่วโลกยังอยู่ในระดับปานกลาง
ทั้งนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทาง WHO ออกแถลงการณ์ประเมินสถานการณืเชื้อไวรัสโคโรนาฉบับใหม่โดยระบุว่า สถานการณการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯในจีนอยู่ในระดับที่รุนแรง รวมไปถึงในระดับภูมิภาคและทั่วโลกด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกแล้วเกือบ 5,000 ราย โดยพบในจีนมากที่สุดโดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 4,600 ราย รองลงมาคือประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อ 14 ราย ญี่ปุ่น 6 ราย ออสเตรเลีย 5 เป็นต้น
ที่มา Japantimes / CNA / DW
ข่าวที่เกี่ยวข้อง