ดาโต๊ะ ไซฟุดดิน อับดุลเลาะห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซีย แถลงชี้แจงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า คำสั่งระงับวีซ่าแก่ชาวจีนในมณฑลหูเป่ย โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่น เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว แต่จะบังคับใช้ไปจนกว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสจะคลี่คลาย และการระงับวีซ่าจะส่งผลให้ชาวจีนจากพื้นที่แพร่ระบาดไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียได้ นับตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมเป็นต้นไป

ท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลมาเลเซียสุ่มเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติ แต่มาเลเซียยืนยันว่า รัฐบาลของตนดำเนินการตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ต้องเตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงบังคับใช้มาตรการเฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด พร้อมยืนยันว่า การตัดสินใจของมาเลเซียครั้งนี้ ผ่านการหารือกันกับรัฐบาลจีนเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยังย้ำด้วยว่ามีการติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียในกรุงปักกิ่ง รวมถึงสถานกงสุลอื่นๆ ในจีนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าพลเมืองมาเลเซียในจีนยังปลอดภัยดี และในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 4 รายที่พบในมาเลเซีย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ทำให้ประชาชนมาเลเซียประมาณ 3.48 แสนคน ร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์รณรงค์ออนไลน์ change.org เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียสั่งห้ามชาวจีนจากทุกมณฑลเดินทางเข้าประเทศ ไม่ใช่มุ่งเน้นแค่ชาวจีนที่มาจากมณฑลหูเป่ยเท่านั้น โดยกลุ่มผู้ลงชื่อให้เหตุผลว่า รัฐบาลมาเลเซียควรคำนึงถึงสวัสดิภาพของประชาชนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งผู้ริเริ่มแคมเปญนี้ตั้งเป้ารวบรวมรายชื่อให้ได้อย่างน้อย 5 แสนชื่อ จึงจะนำข้อเสนอนี้ไปยื่นต่อรัฐบาล

ส่วนสถิตินักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังมาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 2.94 ล้านคน และก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าว่าปีนี้จะต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้น เพื่อให้ทะลุหลัก 3.48 ล้านคน 

กัมพูชาพบผู้ติดเชื้อ 'รายแรก' ที่เมืองท่องเที่ยว

กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาแถลงยืนยันการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศรายแรกเมื่อวานนี้ (27 มกราคม) โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นชายชาวจีน วัย 60 ปี เดินทางจากเมืองอู่ฮั่นมายังสีหนุวิลล์ หรือจังหวัดพระสีหนุ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของกัมพูชา

มัม บุนเฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชาเปิดเผยว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางมายังสีหนุวิลล์พร้อมครอบครัวเมื่อวันที่ 23 มกราคม และเริ่มมีอาการป่วย ไข้สูง เมื่อวันที่ 25 มกราคม ทั้งยังได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าเป็นการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการคงที่ และสมาชิกครอบครัวอีก 3 รายที่เดินทางมาพร้อมกันก็ตรวจไม่พบเชื้อดังกล่าว

รัฐมนตรีของกัมพูชายังระบุด้วยว่า ประชาชนกัมพูชาที่ต้องติดต่อหรือพบปะกับชาวจีนให้ระมัดระวัง คอยสังเกตอาการของตัวเองอยู่เสมอ เพราะสีหนุวิลล์เปิดพื้นที่เปิดรับการลงทุนของกลุ่มนักธุรกิจจากจีน รวมถึงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาพักผ่อนเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังย้ำด้วยว่า ผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น หรือเมืองอื่นๆ ในมณฑลหูเป่ยของจีน จะต้องหมั่นตรวจสอบสุขภาพร่างกายของตัวเอง ถ้าพบว่ามีไข้ ไอ จาม หรือมีน้ำมูก ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน ส่วนประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ ที่พบผู้ติดเชื้อ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 รองจากจีน แต่ทั้งหมดเป็นชาวจีนที่เดินทางเข้าไปในประเทศนั้นๆ