นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคว่า ที่ประชุมตั้งคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคทางเพศ โดยให้ความสำคัญเกี่ยวกับความเสมอภาคและสิทธิขั้นพื้นฐานในชีวิต ทรัพย์สิน และการอยู่ในสังคมอย่างเป็นธรรม และการเปิดพื้นที่ให้สตรีมีส่วนร่วมกิจกรรมทางการเมืองเต็มรูปแบบ ตามนโยบายหลักตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้ง และจะมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ต่ออีกวันพรุ่งนี้ เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมการปฏิรูปพรรคชุดต่างๆ อีกกว่า 10 คณะ แต่ยังไม่มีพิจารณาเรื่องหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และตัว บุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างที่เป็นข่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า การกำหนดเกี่ยวกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และตัวบุคคล จะเริ่มขึ้นได้ต่อเมื่อมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว คณะกรรมการบริหารพรรคจึงจะประชุมกันเพื่อพิจารณา ก่อนจะส่งให้ที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารและ ส.ส. ของพรรค เห็นชอบในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเป็นกระบวนการตามข้อบังคับพรรคกำหนดไว้
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐจะตั้งคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล โฆษกพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า คณะกรรมการบริหารเคยมีมติให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ทำหน้าที่ประสานงานกับพรรคการเมืองอื่นอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุที่กำหนดตัวรัฐมนตรีล่าช้า เพราะรอความชัดเจนจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น นายราเมศบอกว่า เงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลมีข้อยุติไปแล้ว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังเน้นย้ำถึงการปฏิรูปพรรคตามแนวทางของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องขับเคลื่อนพรรคแบบใหม่ อุดมการณ์ทันสมัยเต็มรูปแบบ มีการตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ โดยเฉพาะการสื่อสารรูปแบบใหม่ให้เข้าถึงพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น