ไม่พบผลการค้นหา
โต้เดือด 'รองเลขาสภาฯ' ปมน้ำรั่วตอม่อลานจอดรถ ฉุนถูกด่าข้าราชการทุจริตจงพินาศ ฟาดกลับไม่รู้จริงอย่าพูด ท้าสาบานให้มีอันเป็นไป 'วัชระ' ไม่แคร์พาสื่อเดินดูตาน้ำผุด พร้อมเอาผ้า 7 สีผูกเสาลานจอด ชวนประชาชนมาขอหวยกับเสาศักดิ์สิทธิ์ได้

วันที่ 17 ต.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา วัชระ เพชรทอง พร้อมด้วย วิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแถลงข่าวกรณีข้อบกพร่องของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยมี สาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ร่วมฟังการแถลงข่าว พร้อมด้วยข้าราชการสำนักเลขาธิการสภาฯ บางส่วน

โดยก่อนแถลง วัชระ ถือป้ายข้อความระบุว่า “คนโกงพินาศ ขรก.ทุจริตจงพินาศ ขรก.ที่ดีจงเจริญ” พร้อมทั้งผ้า 7 สี โดยระบุว่า จะนำมาผูกที่เสาตอม่อของสภาฯ ที่มีน้ำผุด ก่อนจะกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2565 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามสัญญาเพื่อว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ จำนวน 12,280 ล้านบาท กำหนดเวลาแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2563 แต่จนถึงวันนี้รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 3,353 วัน ก็ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา 

อีกทั้งการสร้างห้องประชุมใน 2 ลักษณะที่แตกต่างกันคือ ห้องประชุมกั้นเสียงชั้นเดียว และห้องประชุมกั้นเสียงสองชั้น คณะกรรมการตรวจการจ้างฯ ได้ขออนุมัติหรือไม่ และต้นไม้จำนวน 214 ต้น ที่ทางบริษัทผู้รับเหมาขอไม่ปลูกทั้งที่ลงนามอนุมัติไปแล้วตั้งแต่ปี 2556 รวมถึงเสาตอม่ออาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นเสาคอนกรีต ที่มีน้ำร่วมซึมไหลลงมาเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน และมีตาน้ำผุดออกมาบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน (B2) นับร้อยจุด 

ขณะที่ วิลาศ กล่าวว่า การก่อสร้างที่จะเสร็จสิ้นในเดือน พ.ย.นี้ ตนไม่ต้องการที่จะไปขัดขวางไม่ให้เสร็จ เพราะทุกคนเห็นตรงกันหมดว่า อยากให้เสร็จ แต่ต้องเสร็จภายใต้ความสมบูรณ์ และความถูกต้องเพื่อปราศจากการนินทาว่ามีการทุจริต เพราะโครงการก่อสร้างนี้มีผู้รับเหมาไม่รู้กี่ราย เราจึงจะไม่กล่าวหาผู้รับเหมา เพราะเขาไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจ และในเรื่องน้ำรั่วซึม แม้คำแถลงของสภาจะบอกว่า ออกแบบถูกต้อง แต่ตนไปดูคอนโด 60-70 ชั้น ยังไม่พบว่ามีการรั่วของน้ำ ยิ่งที่สภามีน้ำผุดออกมาแบบนี้ สักวันมันจะไม่เกิดน้ำพุหรือ อยากจะพูดเพื่อไปแก้ไขเสีย ไม่ใช่มานั่งต่อล้อต่อเถียงกัน 

เรื่องที่สองคือ สายไฟใต้ดินในสภาทั้งหมด มีความยาว 2,700 เมตร ปรากฎว่าไปดูจริงๆ มีการขุดลงไปต่ำกว่าพื้นดินเพียง 5-10 ซม. ก็ไม่รู้ว่า กระบวนการของสภาเป็นอย่างไร ในเมื่อแบบบอกว่า ต้องเดินอยู่ใต้พื้นดิน 40 ซม. ถ้าตนไม่ยื่นถาม จะเป็นอย่างไร แล้วจ่ายเงินกันไปแล้ว เรื่องต่อมาคือ ต้นไม้ ในแบบที่จะมาปลูกจะต้องมีการอนุมัติ และอนุบาล 8 เดือน และผู้ควบคุมงานเห็นชอบถึงจะลงปลูก และปลูกไปแล้ว 8 เดือนถึงจะส่งมอบได้ แต่ตนเห็นว่า มีการยกไปชั้น 5 ไม่รู้ว่ามีการอนุบาลกันครบจริงหรือไม่ 

วิลาศ ยังกล่าวถึง การปูหินวิทิตาส้มบริเวณทางเดินริม ถ.สามเสน ตนเอาทั้งนักวิศวกรเหมืองแร่ และนักธรณีวิทยามาดูก็พบว่า มันเป็นเศษหิน มันจึงเป็นหินแกรนิตสีเทา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับห้องกรรมาธิการที่ก่อสร้างถูกแบบ 48 ห้อง และผิดแบบ 65 ห้อง ขณะที่ สาธิต ได้สอบถาม วัชระ ว่า ที่วัชระชูป้ายขอความ “ขรก.ทุตริตจงพินาศ” คำว่า ข้าราชการทุจริตคือใคร ถ้าไม่บอก นั่นคือการกล่าวหา และดูถูกข้าราชการ 

วัชระ จึงได้ชี้แจงว่า ก็คือ “ข้าราชการที่ทุจริต” แต่ไม่สามารถระบุว่าเป็น นาย ก. นาย ข. ได้ และขณะนี้ข้าราชการตำแหน่งเลขาธิการสภาฯ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพราะฉะนั้นข้าราชการทุจริตวันนี้ วันหน้าไป ป.ป.ช. และ ศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลาง

ด้าน สาธิต จึงได้ระบุว่า ถ้าวันนี้พูดถึงข้าราชการ ในนามข้าราชการก็ต้องปกป้องสิทธิ จากการที่วัชระมาแถลงข่าวทุกครั้ง คนให้ข่าวรู้ข้อมูลจริงบ้างหรือไม่ บางเรื่องราวมันจบไปแล้ว และได้มีการทำให้ดีขึ้น หนังสือที่วัชระยื่นมา ตนพิจารณาทั้งหมด ไม่เคยละเว้น และการที่บอกว่าจะมีการตรวจรับส่งมอบในเดือน พ.ย. นั่นคือแผนงาน และย้ำว่า อย่าพูดอะไรโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง 

“พูดอะไรออกมา เห็นใจคนทำงานบ้าง สิ่งที่ทำมาทั้งหมด ผมต้องมาตามเช็ดงานเก่าๆ ให้เอาข้าราชการทั้งหมดย้ายเข้ามาที่นี่ให้ได้ หลังจากเคยเช่าที่ของ TOT โดยมีค่าใช้จ่ายเดือนละสิบล้านบาท ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมพยายามทำให้เดินหน้าต่อไปได้ การที่มาตีความอะไรแบบที่เข้าใจ มันทำให้เกิดความเสียหาย ข่าวของท่าน รู้แต่ทางเดียว ในฐานะอดีต ส.ส. คุณเข้ามาปกป้องสิทธิแทนประชาชน ผมไม่ว่า แต่เข้ามามาล่วงเกินสถาบันองค์กร ผมยอมไม่ได้ การดำเนินงานของเราเป็นไปโดยสุจริต ไม่เคยทุจริต ถ้าผมทุจริตในวงการสภา ขอให้พินาศภายใน 3 วัน 7 วัน ถ้าไม่ทุจริต ขอให้คนที่กล่าวหามีอันเป็นไปด้วยเช่นกัน” สาธิต กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีอารมณ์ 

จากนั้น วิลาศ จึงกล่าวว่า ที่ตนระบุว่าจะส่งมอบเดือน พ.ย. ตนบอกแต่แรกแล้วว่า ขณะนี้มีข่าว ตนจึงมาขอความร่วมมือ ไม่ได้บอกว่ามีหนังสือสั่งการอย่างไร สาธิต จึงตอบว่า แผนงานระบุมาในวันที่ 29 พ.ย. แต่แผนการปฏิบัติจริงมันคือเดือน ธ.ค. ถึงจะเสร็จ

“ข้อมูลต่างๆ บริษัทซิโน-ไทย ตอบท่านได้ ขอให้ท่านรับข้อมูลข่าวสารที่แท้จริง อย่ารับข้อมูลกระปริบกระปรอยแล้วเอามาขยายต่อ” สาธิต กล่าว 


ผ้า 7 สีผูกเสาลานจอดรถสภามีน้ำผุด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังแถลงข่าว วัชระ ได้พยายามขอเจ้าหน้าที่ให้พาลงไปดูพื้นที่จริงที่มีน้ำรั่วซึม แต่ อรุณ ผ่องแผ่ว ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัย สภาผู้แทนราษฎร ได้พยายามห้ามไม่ให้ลงไป และยอมรับว่าเกิดปัญหาเรื่องตาน้ำและน้ำผุด เป็นร้อยจุดจริง แต่สภาฯ กำลังดำเนินการแก้ไข ขอให้ วัชระ ทำหนังสืออนุญาติมาก่อน จนได้วิวาทะกันครู่หนึ่ง ขณะที่ วัชระ ทัดทานว่านี่เป็นความรับผิดชอบของบริษัทผู้รับเหมา สำนักเลขาฯ ไม่จำเป็นต้องมาออกหน้าปกป้องแทน

ท้ายที่สุด วัชระ พร้อมด้วย วิลาศ จึงได้พาสื่อมวลชนไปสำรวจพื้นที่ซึ่งมีปัญหา โดยไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาต ขณะที่ อรุณ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยติดตามไปทุกจุด จากนั้น วัชระ และ วิลาศ พาไปดูจุดที่มีน้ำรั่วซึมขึ้นมาจากใต้พื้น เช่น ตอม่อบริเวณชั้นใต้ดินและลานจอดรถ ซึ่ง วิลาศ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นน้ำรั่วจากเพดาน แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นผลของการก่อสร้างที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาล้อมรอบ ส่งผลให้เกิดแรงดันน้ำจนซึมจากใต้พื้นดิน

จนถึงจุดสุดท้าย คือเสาที่ O14 บริเวณลานจอดรถชั้น B2 ของอาคารรัฐสภา วัชระ ได้นำผ้า 7 สี ไปผูกบริเวณเสาดังกล่าวเพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่า เสาต้นนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะมีน้ำผุดออกมา พร้อมเชิญชวนประชาชนมาขอหวยที่รัฐสภาได้ อย่างไรก็ตาม อรุณ ได้ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ผูกเพราะผิดกฎระเบียบของรัฐสภา โดยเอาตัวเองเข้าไปขวางเสาไว้ วัชระ จึงนำผ้ามาผูกตัว อรุณ ไว้พร้อมกับเสาด้วย