วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล พร้อมด้วยพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลการประชุม ส.ส.พรรค พปชร. ว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมการทำหน้าที่เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรก วันที่ 17-18 พ.ย. นี้ โดย พปชร. ย้ำยึดตามมติเดิมของวิปรัฐบาลที่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในฉบับ 1-2 ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านที่เปิดทางให้มี ส.ส.ร. โดยงดออกเสียง ฉบับที่ 3-6 ขณะที่ร่างของไอลอว์ขอรอฟังจากตัวแทนของกลุ่มในการชี้แจงก่อนร่วมกันหารืออีกครั้ง ยืนยันพรรคเปิดกว้างให้ ส.ส.แสดงออกและรับฟังความคิดเห็นทำหน้าที่ ยึดหลักการและเหตุผลมากกว่าความคิดเห็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
พัชรินทร์ กล่าวย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่กดดันเชื่อการทำหน้าที่ตามกระบวนการรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและจะไม่แตะในหมวด 1 และ 2 ที่เกี่ยวข้องกับพระหากษัตริย์ขอทุกฝ่ายแสวงหาทางออกร่วมกัน สร้างความปรองดองผ่านกลไกของรัฐสภาด้วย
วิรัช กล่าวถึงขั้นตอนของรัฐสภาในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ โดยแบ่งเวลาการพิจารณา โดยแรกจะเริ่มใน 09.30 น. เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ทั้ง 6 ฉบับ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงจะพิจารณาร่างฉบับไอลอว์ โดยจะไม่มีการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ร่างก่อนหน้านี้เพราะมีการอภิปรายไปก่อนหน้านี้แล้วในวันที่ 23-24 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยวุฒิสภาจะใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาลใช้เวลารวมกัน 5 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ชี้แจงของไอลอว์ใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยจะใช้เวลาพิจารณาทั้งหมดรวมเวลาของประธานรัฐสภาด้วย 17 ชั่วโมง และคาดว่าในวันพรุ่งนี้(17 พ.ย.) จะใช้เวลาพิจารณาถึง 13-14 ชั่วโมง ขณะที่วันที่ 18 พ.ย. จะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการอภิปรายอย่างต่อเนื่องก่อนโหวตลงมติ โดยให้ ส.ส.และส.ว.ยืนขึ้นแสดงตนโหวต 1 คน ลงมติ 7 ฉบับในคราวเดียว ซึ่งเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นภายในช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ย.นี้
วิรัช ยืนยันว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ยื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากหากมีการลงมติในวันที่ 23-24 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็คาดว่าจะไม่ผ่านแน่นอน แต่ภายหลังได้มีการตั้งรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ก็สามารถมีการทำความเข้าใจ ชี้แจงเหตุผลและอะไรที่เป็นจุดอ่อนก็นำไปพิจารณาในวาระ 2-3 ต่อไป
วิรัชยังย้ำว่ายืนยันว่าการทำหน้าที่ของ ส.ส.และส.ว. ไม่รู้สึกกดดันต่อผู้ชุมนุมทั้งฝ่ายหนุนและฝ่ายค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะสมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐพร้อมทำหน้าที่ด้วยเหตุด้วยผล
ขณะที่ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมรราช ประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงผลการประชุมวิปรัฐบาลในวันนี้ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบวาระที่จะประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 17-18 พ.ย. โดยเริ่มต้นด้วยรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ ทั้ง 6 ฉบับ ที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งวิปรัฐบาล มีมติรับทราบรายงานของ กมธ. หลังจากนั้นเป็นการพิจารณาเรื่องด่วน คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ร่าง โดยที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติให้รวมพิจารณาทั้ง 7 ร่าง
จากนั้นให้ลงมติโดยการเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผยในคราวเดียวกันทีละฉบับ ซึ่งวิปรัฐบาลมีมติว่า รับหลักการร่าง 1 และ 2 ส่วนร่างที่ 3-6 งดออกเสียง ส่วนร่างที่ 7 คือร่างของไอลอว์ ที่ประชุมขอฟังการแถลงและการอภิปรายของสมาชิกก่อน จากนั้นวิปรัฐบาลจะนัดพิจารณาอีกครั้ง
ชินวรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อลงมติเรียบร้อยแล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...พ.ศ.....) จำนวน 45 คน แบ่งเป็น ส.ว. 15 คน ส.ส.30 คน โดยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 17 คน พรรคร่วมฝ่ายค้าน 13 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :