ไม่พบผลการค้นหา
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวหาชาติตะวันตกว่าพยายาม “ชำแหละชิ้นส่วน” รัสเซียออกเป็นเสี่ยงๆ และพยายามเปลี่ยนประเทศอันกว้างใหญ่อย่างรัสเซีย ให้กลายเป็นรัฐเล็กๆ ย่อยๆ ที่อ่อนแอหลายแห่ง

ในการให้สัมภาษณ์กับ Rossiya สถานีโทรทัศน์ของรัฐเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ก.พ.) ปูตินอ้างว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ต้องการ “สร้างความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ต่อเรา” ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวอีกว่า เป้าหมายของชาติตะวันตก คือ "ทำให้ประชาชนของเราต้องทนทุกข์ทรมาน" และย้ำว่า "เราจะเพิกเฉยต่อความสามารถทางนิวเคลียร์ของพวกเขาในสภาวะเหล่านี้ได้อย่างไร"

ปูตินกล่าวว่าข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกต่อแผนการดังกล่าวนี้ มีขึ้นตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต “พวกเขาพยายามสร้างโลกใหม่ตามข้อตกลงของพวกเขาเท่านั้น เราไม่มีทางเลือกนอกจากตอบโต้” ปูตินกล่าว พร้อมระบุเสริมว่าชาติตะวันตกมีส่วนรู้เห็นใน “อาชญากรรม” ของยูเครน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียชี้ว่า หากสหรัฐฯ ทำตามแผนสำเร็จ รัสเซียจะถูกแบ่งออกเป็นมอสโก อูราล และภูมิภาคอื่นๆ ที่แตกต่างกัน โดยปูตินอ้างว่าตัวเองมี “หลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร” เพื่อยืนยันคำพูดดังกล่าวของเขา

ความเห็นของปูตินมีขึ้นหลังวันครบรอบ 1 ปีของการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียอย่างเต็มรูปแบบในวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.พ.) ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาต่อชาติตะวันตกว่าพยายามแบ่งแยกดินแดนของรัสเซีย เป็นไปเพื่อการเรียกเสียงสนับสนุนในการทำสงครามกับรัสเซีย โดยปูตินพยายามหาข้ออ้างใหม่ในการเดินหน้าการสู้รบว่าเป็นไปเพื่อการต่อสู้ที่จำเป็น และการป้องกันเพื่อความอยู่รอดของชาติรัสเซีย ผ่านการหวนรำลึกถึงถึงการต่อสู้ของสหภาพโซเวียตกับนาซีในอดีต

ปัจจุบันกองทัพรัสเซียสามารถรุกเข้ามายังดินแดนในทางตะวันออกของยูเครน แต่ยังคงล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายทางสงครามครั้งสำคัญใดๆ ได้ ทั้งนี้ กองทัพรัสเซียมสามารถยึดพื้นที่บางส่วนเล็กน้อยในภูมิภาคดอน[าสของยูเครน ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน นอกจากนี้ กลุ่มยุทธวิธีของรัสเซียได้ปิดล้อมเมืองบักห์มุตบางส่วนแล้ว ซึ่งการสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือดเป็นเวลาหลายเดือน

ในการแถลงล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (26 ก.พ.) โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนยืนยันคำมั่นสัญญาของเขาที่จะขับไล่รัสเซียออกจากดินแดนยูเครนทั้งหมดที่ถูกขโมยไป รวมถึงไครเมีย ซึ่งปูตินผนวกคาบสมุทรดังกล่าวจากยูเครนไปเป็นของรัสเซียเมื่อ 9 ปีก่อน

“9 ปีที่แล้ว การรุกรานของรัสเซียเริ่มขึ้นในไครเมีย” เซเลนสกีระบุ “ด้วยการได้คืนไครเมีย เราจะคืนความสงบสุขให้ นี่คือแผ่นดินของเรา ประชาชนของเรา ประวัติศาสตร์ของพวกเรา เราจะคืนธงยูเครนให้กับทุกมุมของยูเครน” ก่อนที่ประธานาธิบดียูเครนจะกล่าวเสริมว่า "ฉันจะเป็นอิสระ!" ในภาษาตาตาร์

ยังคงไม่มีความชัดเจนว่าชาติพันธมิตรตะวันตกของยูเครน จะสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ของยูเครน เพื่อการยึดไครเมียกลับคืนมาหรือไม่ และยังมีคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบว่า ยูเครนจะรวบรวมพื้นที่กลับคืนมาได้อย่างไร ทั้งนี้ ชาวยูเครนในไครเมียจำนวนมากลี้ภัยออกจากไครเมียเมื่อปี 2557 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีชาวรัสเซียประมาณ 600,000 คนย้ายภูมิลำเนาเข้ามายังไครเมียของยูเครนแทน


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2023/feb/26/vladimir-putin-acccuses-west-of-seeking-to-dismember-russia?CMP=Share_AndroidApp_Other&fbclid=IwAR3y0KssbbP-dGR4MADV-cPNI4otEyO-VxCwjYGQRTOdmhfjY83-Ha1Y580