นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รวมถึงภาคแอกชน อยู่ระหว่างเร่งสรุปมาตรการดูแลเยียวยาเศรษฐกิจชุดที่ 3 สืบเนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับการดูแลผลกระทบของประชาชนต่อเนื่อง และการดูแลระบบเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน
โดยชุดมาตรการนี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุดและใช้งบประมาณมากกว่าในชุดที่ 1-2 ส่วนจะใช้จำนวนเท่าใดนั้นยังต้องรอสรุปชุดมาตรการทั้งหมดก่อน ซึ่งในแนวทางเบื้องต้นจะมีการออก พ.ร.ก.กู้เงินด้วย โดยยืนยันว่าในส่วนหนี้สาธารณะของไทยยังอยู่ที่สัดส่วนร้อยละ 40 ของจีดีพี ขณะที่ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง กำหนดให้สัดส่วนสาธารณะได้ไม่เกินร้อยละ 60 ของจีดีพี ดังนั้นจึงยังมีศักยภาพที่จะทำได้
“หนี้สาธารณะยังเข้มแข็ง ส่วนจะกู้ได้เท่าไหร่นั้นกำลังทำงานกันอยู่ ทั้งในเรื่องของชุดมาตรการและงบประมาณที่จะต้องใช้ แต่ยืนยันว่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม” นายอุตตม กล่าว
ทั้งนี้ รมว.คลัง ยืนยันว่า กระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลเตรียมกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะมั่นใจว่ารัฐบาลจะหาแหล่งเงินมาใช้ได้อย่างเพียงพอ ยืนยันว่า ไม่มีถังแตก ซึ่งการจัดสรรงบประมาณสำนักงบประมาณจะมีการดูแลอย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด
ส่วนที่มีการเสนอให้มีการใช้ พ.ร.บ.โอนงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อใช้ในการดูแลระบบเศรษฐกิจนั้น รมว.คลัง ระบุว่า ยังไม่อยากให้คิดว่าจะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อมาทดแทนอีกอย่างหนึ่ง เพราะตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูทางเลือก โดยเฉพาะสำนักงบประมาณที่มีการประสานงานกับกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิด ว่าจะใช้งบประมาณส่วนใดในการจัดการวิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นครั้งนี้ได้บ้าง ดังนั้นจึงไม่มีการโยกงบประมาณเพื่อมาทดแทนส่วนที่ต้องทำตอนนี้