รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ซึ่งเป็นการสำรวจภาคธุรกิจทั่วประเทศ ประจำเดือน ก.ค. 2562 อยู่ที่ระดับ 46.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 อยู่ในระดับต่ำสุดรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.2561
2561 ซึ่งผู้ประกอบการในทุกภูมิภาค รวมทั้งกรุงเทพมหานคร มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยลดลง ทั้งในภาคเกษตร เศรษฐกิจโดยรวม การลงทุน การท่องเที่ยว การบริโภค ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า รวมถึงการจ้างงาน โดยสาเหตุสำคัญมาจากความกังวลกับปัญหาสงครามการค้ามีแนวโน้มรุนแรงขึ้น กระทบการส่งออกลดลง ปัญหาภัยแล้งกระทบสินค้าเกษตรตกต่ำ และสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่า
โดยหากแยกตามรายภูมิภาค พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคใต้ ดัชนีอยู่ในระดับต่ำที่สุด รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออกตามลำดับ
“แนวทางดำเนินการแก้ปัญหา คือ อยากให้ดูแลเรื่องค่าเงินบาท พัฒนาเศรษฐกิจให้ขยายตัว กระตุ้นเศรษฐกิจ และท่องเที่ยวให้เม็ดเงินกระจายตัว รวมถึงเร่งออกนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการ SME” รศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าว
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ภาพรวมของดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยล่าสุดสะท้อนว่า เศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในภาวะที่ยังไม่ฟื้นตัว ทุกภาคมีปัญหาตรงกันคือราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งความเชื่อมั่นบรรดานักธุรกิจทั่วประเทศไม่มีสัญญาณดีขึ้น และสำคัญผู้ประกอบการยังคงรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ โดยเฉพาะการดูแลราคาสินค้าเกษตร และการท่องเที่ยว ทั้งนี้ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะนิ่งไปจนถึงช่วงปลายไตรมาสที่ 3 แต่มหาวิทยาลัยหอการค้ายังคงประเมินว่าเศรษฐกิจปี 2562 จะขยายตัวในกรอบร้อยละ 3.3 - 3.5