นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ซึ่งเป็นการสำรวจภาคธุรกิจทั่วประเทศ ประจำเดือน ส.ค. 2562 อยู่ในระดับ 46.5 ลดลงจากเดือน ก.ค. ที่ระดับ 46.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เดือน ต่ำสุดในรอบ 12 เดือน ซึ่งค่าดัชนีปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค ทั้งการบริโภค การลงทุน การท่องเที่ยว ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม การค้า การจ้างงาน และเศรษฐกิจโดยรวม ที่มีระดับต่ำกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวลงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยลบมาจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่ยังคงยืดเยื้อ ประกอบกับสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง รวมถึงความขัดแย้งของประเทศคู่ค้าของไทย
ทั้งนี้นายธนวรรธน์ แนะว่ารัฐบาล ควรเร่งดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว เพิ่มมาตรการป้องกันภัยธรรมชาติ และควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยประเมินว่า หากในช่วงที่เหลือของปีรัฐบาลสามารถผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ทั้งนโยบายดูแลค่าเงินบาท เยียวยาความเสียหายผลกระทบน้ำท่วม และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะสามารถดันให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวที่ร้อยละ 3.7- 4.2
อย่างไรก็ตามถ้านโยบายของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคการเงินในการปล่อยสินเชื่อไม่เป็นไปตามเป้า รวมทั้งการใช้จ่ายของภาครัฐไม่รวดเร็วพอ ตลอดจนเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณทรุดตัวรุนแรง เศรษฐกิจไทยอาจจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 3 ได้ในปีนี้ ซึ่งยังต้องติดตามสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าเดือนตุลาคมนี้จะคลี่คลายลง และการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐเป็นหลักต่อไป