ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ของทางการยูเครนเปิดเผยว่า ความหวังในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต จากซากปรักหักพังของอาคารที่พักในเมืองดนิโปรมีความริบหรี่ หลังจากเกิดเหตุการยิงขีปนาวุธโจมตียูเครนอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านนี้ (14 ม.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยหลายสิบราย

นาตาเลีย บาบาเชนโก ที่ปรึกษาผู้ว่าการภูมิภาคระบุว่า ขณะนี้มีการรายงานยืนยันผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียแล้วอย่างน้อย 30 ราย เช่นเดียวกันกับผู้ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 30 ราย ซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บอาการวิกฤต 12 ราย ทัั้งนี้ มีผู้ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังประมาณ 30 ถึง 40 ราย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า พวกเขาได้ยินเสียงผู้คนที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มาจากใต้ซากอาคารความสูง 9 ชั้น ที่พังถล่มลงมาจากขีปนาวุธของรัสเซียในบริเวณพื้นที่เมืองดนิโปร ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของทิศตะวันออกของยูเครน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องอาศัยความเงียบเพื่อฟังเสียงหาผู้ที่ยังติดอยู่ภายใต้ซากอาคาร และอากาศที่หนาวเหน็บทำให้เกิดความกังวลต่ออุปสรรคในการกู้ภัยมากขึ้นเรื่อยๆ

“โอกาสในการช่วยชีวิตผู้คนนั้นน้อยมาก” บอรีส์ ฟิลาตอฟ ผู้ว่าการเมืองดนิโปรระบุกับสำนักข่าว Reuters “ผมคิดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะมีขึ้นเป็นหลายสิบราย” ฟิลาตอฟยังเปิดเผยอีกว่า บันไดทั้ง 2 ของอาคารถูกทำลาย และแฟลตอีกหลายสิบหลังก็ถูกทำลายจากขีปนาวุธของรัสเซียด้วยเช่นกัน

“บางคนถูกดึงตัวออกมาแบบยังมีชีวิต บางคนได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง” ผู้สื่อข่าวของ Aljazeera ระบุก่อนกล่าวเสริมว่า “ในบรรดาผู้เสียชีวิตมีเด็กหญิงอายุ 15 ปีหนึ่งคน”

รัสเซียยิงชุดขีปนาวุธ 2 ระลอกใส่ยูเครนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยการโจมตีมุ่งเป้าไปที่เมืองต่างๆ ทั้งประเทศยูเครน เช่น กรุงเคียฟ และเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่างคาร์คีฟ ในขณะที่การต่อสู้ในสมรภูมิยังคงเดินหน้าต่อไปในพื้นที่เมืองทางตะวันออกของยูเครนอย่างโซเลดาร์และบักห์มุต

รัสเซียซึ่งเข้ารุกรานยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565 ยังคงเดินหน้าการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนเล็งเป้าหมายใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ต่อเนื่องมานับตั้งแต่เดือน ต.ค.ของปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนยูเครนหลายล้านรายไม่สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้า ความอบอุ่น และน้ำสะอาดได้

ในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 ม.ค.) เกี่ยวกับการโจมตีเมื่อวันก่อน กระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้กล่าวถึงเมืองดนิโปรว่าเป็นเป้าหมายเฉพาะเจาะจง “วัตถุที่ได้รับมอบหมายทั้งหมดถูกโจมตี การโจมตีเป้าหมายได้บรรลุเป้าหมายของแล้ว” แถลงการณ์ระบุ ทั้งนี้ รัสเซียปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ตัวเองไม่เคยเล็งเป้าหมายลเรือนยูเครน

กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่า อาคารที่พักพลเรือนของยูเครนในเมืองดนิโปร ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ Kh-22 ของรัสเซีย ซึ่งแถลงการณ์ของกองทัพอากาศยูเครนระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวไม่มีความแม่นยำ อย่างไรก็ดี ยูเครนยังขาดระบบการป้องกันทางอากาศ ที่จะสามารถยิงสะกัดขีปนาวุธดังกล่าวให้ตกลงก่อนโดนเป้าหมายได้

โฆษกกองบัญชาการตอนใต้ของยูเครนกล่าวว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธร่อนเพียงครึ่งเดียวที่ถูกส่งไปยังพื้นที่ทะเลดำระหว่างการโจมตีเมื่อวันเสาร์ “สิ่งนี้บ่งชี้ว่าพวกเขายังคงมีแผนบางอย่าง” นาตาเลีย ฮูเมนียุก โฆษกกองบัญชาการตอนใต้ของยูเครนกล่าว “เราต้องเข้าใจว่ามันยังคงถูกนำมาใช้ได้อยู่”


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/1/15/hopes-for-rescue-fade-away-after-russias-attack-on-ukraine?fbclid=IwAR3lGShD1Eq9Je3N1cwHrw8E-c15EjBCTQsaG0dxwHr9IKpW5vYbfwLjTf4