รัสเซียกล่าวโทษยูเครนว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตี ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในดินแดนรัสเซีย นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของรัสเซีย ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อ 22 เดือนที่แล้ว
“เราจะเพิ่มการโจมตีให้เข้มข้นขึ้น ไม่มีอาชญากรรมต่อพลเรือนใดที่ไม่ได้รับการลงโทษ แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น” ปูตินกล่าวเมื่อวันจันทร์ (1 ม.ค.) ระหว่างการเยือนโรงพยาบาลทหาร ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวอีกว่า รัสเซียจะโจมตี “สถานที่ปฏิบัติการทางทหาร” ต่อไป “เรากำลังทำสิ่งนั้นในวันนี้ และพรุ่งนี้เราจะทำมันต่อไป” ปูตินกล่าวย้ำ
ก่อนหน้านี้ ปูตินระบุว่าการทำลายล้างในเบลโกรอดนั้นเป็น “การโจมตีของผู้ก่อการร้าย” และกล่าวหาว่ากองกำลังยูเครนมุ่งเป้าไปที่ “ใจกลางเมืองที่ผู้คนสัญจรไปมาก่อนวันส่งท้ายปีเก่า” ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวอีกว่า ยูเครนถูกใช้โดยชาติตะวันตกเพื่อ “ยุติปัญหา” และยืนกรานว่าแนวทางการทำสงครามกำลังเปลี่ยนแปลงไปเพื่อประโยชน์ของรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ยูเครนได้ทำการโจมตีเบลโกรอดด้วยขีปนาวุธ 2 ลูก และจรวดหลายลูก พร้อมกันนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุอีกว่า อาวุธส่วนใหญ่ที่ยูเครนนำมาใช้ถูกยิงสะกัดตก แต่มีเศษซากของอาวุธบางส่วนที่ตกใส่บางพื้นที่ของเมือง
เวียเชสลาฟ กลัดคอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคเบลโกรอด กล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับอาคารที่อยู่อาศัย 30 หลัง ตลอดจนบ้านเรือนต่างๆ และรถยนต์หลายคัน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยูเครนไม่ได้ออกมากล่าวแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตีดินแดนรัสเซียโดยตรง
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดการโจมตีในช่วงวันปีใหม่ในภูมิภาคโอเดสซาทางตอนใต้ของยูเครนและเมืองโดเนตสค์ทางตะวันออกที่รัสเซียยึดครอง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย โดยมีเด็กชายวัย 15 ปีเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย ในขณะที่ 1 ใน 87 โดรนที่ถูกยิงสะกัดได้โดยยูเครนตกใส่อาหารจนได้รับความเสียหาย
ยังมีผู้เสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บ 13 รายจากการโจมตีของยูเครนในพื้นที่โดเนตสก์ที่รัสเซียยึดครอง โดยสื่อของรัฐรัสเซียรายงานว่า มีผู้สื่อข่าว 1 คนเป็นหนึ่งในเหยื่อแต่ไม่ได้การระบุรายละเอียดใดๆ นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีก 1 รายจากการยิงปืนใหญ่ที่เมืองเชเบคิโนที่ชายแดนรัสเซียอีกด้วย
ที่มา: