ไม่พบผลการค้นหา
'จาตุรนต์ ฉายแสง' ติง 'ประยุทธ์' ออกคำสั่ง ม.44 ปลดฟ้าผ่า 'สมชัย' พ้น กกต. ตามอำเภอใจ แทรกแซงการทำงานองค์กรอิสระ กระบวนการเลือกต้ัง ทำลายหลักนิติธรรม ขณะที่ 'ประวิตร' ไม่หวั่น 'สมชัย' จ่อโต้ คสช.

นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่งมาตรา 44 ให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยุติการทำหน้าที่กรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า การออกคำสั่งดังกล่าวมีนัยสำคัญ คือ ถ้านายสมชัย แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อ และกระทำผิดกฎหมายก็สามารถดำเนินคดีได้ แต่ไม่ใช่เหตุผลในการปลดได้ สะท้อนให้เห็นว่าการที่หัวหน้าคสช. ออกคำสั่งเป็นการทำตามอำเภอใจที่ไม่เป็นธรรมต่อนายสมชัย และทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองหลายประการประกอบไปด้วย

1.การลงโทษโดยไม่ใช้กระบวนการตามกฎหมายปกติ และลงโทษโดยไม่ปรากฎหรือไม่มีการพิสูจน์หลักว่าได้ทำผิดกฎหมาย เป็นการออกคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ขัดและทำลายหลักนิติธรรม

2.เป็นการแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระที่มีการดูแลการเลือกตั้ง จึงถือเป็นคำสั่งที่เป็นการแทรกแซงการเลือกตั้ง และกระทบต่อความได้เปรียบเสียเปรียบ และทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไม่อาจเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

3.มีผลต่อความเป็นอิสระขององค์กรอิสระอื่น ที่ย่อมหวั่นเกรงว่าจะทำให้คสช.ไม่พอใจ และอาจถูกลงโทษโดยไม่ต้องมีเหตุผลและไม่ผ่านกระบวนการตามกฎหมายที่เป็นธรรมเท่ากับทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรอิสระทั้งระบบตราบใดที่คสช.ยังมีอำนาจล้นฟ้าอยู่

"การออกคำสั่งนี้เป็นการแทรกแซงการเลือกตั้งและกระทบต่อความได้เปรียบเสียเปรียบและการทำหน้าที่ของพรรคการเมือง ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ไม่อาจเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม โดยเฉพาะเมื่อไม่มีหลักประกันว่า จะมีการออกคำสั่งในทางแทรกแซงการเลือกตั้งในทำนองเดียวกัน หรือในลักษณะอื่นๆอีก"จาตุรนต์ ระบุ


ขณะที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการใช้มาตรา 44 ปลด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกจากการเป็น กกต. ถือว่า เป็นการเพิ่มศัตรูให้กับ คสช. หรือไม่ เพราะ นายสมชาย ยังคงออกมาเคลื่อนไหวให้ข่าวกับสื่อมวลชน โดยเห็นว่า ก็สามารถทำได้ แต่อยากขัดกฎหมายแล้วกัน

สำหรับการออกคำสั่งดังกล่าวระบุว่า สืบเนื่องจากนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ได้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในกรณี การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความเห็นของตนเกี่ยวกับกระบวนการและกําหนดการการเลือกตั้งด้วยถ้อยคําที่ไม่สมควรในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความสับสน ทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงด้วยว่า นายสมชัย ได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งเสียก่อนซึ่งถือเป็นการกระทําที่เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์

อ่านเพื่อเติม