นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกเครียดหรืออึดอัด หลังมีคำสั่งหัวหน้า คสช. โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ตนเองยุติการปฏิบัติหน้าที่ กกต. เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเมื่อคืนที่ผ่านมานอนหลับฝันดี แม้จะอึดอัดที่มีโทรศัพท์เข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถรับได้ทุกสาย ซึ่งวันนี้ตนเองยังไม่ได้คิดที่วางแผนการใช้ชีวิตแต่จะไปบรรยายตามปกติ แม้จะไม่ได้เป็น กกต.แล้ว แต่ก็มีงานทำทุกวัน ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำงานที่ กกต.แล้วจะว่าง โดยจะกลับไปทำงานที่มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือ พีเน็ต ส่วนจะลงเล่นการเมืองต่อจากนี้หรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งตอนนี้ยังไม่คิด
ส่วนการแสดงความคิดเห็นความเห็นอื่นๆโดยเฉพาะการใช้มาตรา 44 ปลดตนเองออกจากตำแหน่ง จะไม่ขอพูดในวันนี้ รอให้เก็บของให้เสร็จในวันศุกร์ที่ 23 มี.ค. เวลา 15.00 น.จะแถลงชี้แจงในทุกประเด็นอีกครั้ง พร้อมยืนยันที่ผ่านมาตนเองให้ความเห็นที่เป็นจริงต่อทุกฝ่าย แม้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม ซึ่งหลังจากนี้สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์กับประเทศ ประชาชน ตนเองก็จะออกมาพูดต่อไป ทั้งนี้จะไม่ยื่นร้องต่อศาลปกครอง เพราะถือว่าคำสั่งที่ออกถือเป็นสิ้นสุด ส่วนจะมองว่าเป็นการแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระนั้น ก็ไม่ขอแสดงความคิดเห็น
นายสมชัย ยังย้ำว่า แม้ตนเองจะถูกคำสั่งให้ออกจาก กกต.ก็ยังไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติในการเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต. ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ถอนตัว และไม่เห็นว่าในคำสั่งของ คสช.สั่งห้ามไม่ให้สมัครในตำแหน่งเลขา กกต. โดยเป็นเรื่องของกรรมการสรรหาในการตรวจสอบคุณสมบัติว่าผู้สมัครคนใดเหมาะสม แต่อาจจะสร้างความลำบากใจให้กับ กกต.อีก 4 คนในการพิจารณา ส่วนจะสร้างลำบากใจและหนักใจในเรื่องใดนั้นก็ขอให้ถาม กกต.อีก 4 คนเอง
ยืนยันว่าไม่ได้เล่นเกมอะไรกับ คสช. หลังจากพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. กำหนดให้เซ็ตซีโร่ กกต. เพราะตัวเองเล่นเกมไม่เก่ง และยังไม่คิดเรื่องการร้องศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองตนเองจากคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 แต่การได้ออกจาก กกต. ถือเป็นบุญกุศล
(บก.ลายจุด ทักทาย สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.)
บก.ลายจุดได้ทีชวน 'สมชัย' ร่วมพรรคเกรียน
หลังจากนั้น นายสมชัย เดินทางไปพบกับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) ที่เตรียมจดจัดตั้งพรรคเกรียนในวันนี้ เพื่อให้คำปรึกษาการตั้งชื่อพรรค โดยทักทายกันด้วยการแปะมือ (hi-five) โดย บก.ลายจุด นำพจนานุกรมขึ้นมาเปิดความหมายของคำว่า ‘เกรียน’ ซึ่งนายสมชัย แนะนำว่าหากชื่อพรรคการเมืองดังกล่าวไม่ขัดกับกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 14 ก็สามารถแจ้งการจดทะเบียนพรรคได้
ทั้งนี้นายสมบัติยังได้เชิญชวนนายสมชัย เข้าร่วมพรรคการเมือง เนื่องจากเห็นว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับพรรคเกรียน โดยระบุว่า “อาจารย์สมชัยเนี่ย ตอนนี้แกว่างแล้ว ดูท่าทางเห็นว่าอาจจะมีความสนใจเดินเข้าสู่สนามการเมือง ถ้าพรรคอื่นดูแล้วไม่เหมาะกับบุคลิกอาจารย์นะครับ ผมเรียนว่าพรรคเกรียนเราเหมาะกับอาจารย์มาก เห็นแล้วเหมาะมาก”
ด้านนายสมชัย เอามือล้วงกระเป๋าและทำท่าจะหยิบบัตรประชาชนขึ้น แต่ก็เก็บบัตรประชาชน พร้อมพูดว่าเอาไว้ก่อน
จากนั้น บก.ลายจุด ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เปิดรับสมัครสมาชิก สำหรับคนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย มีความสนใจที่จะเสนอนโยบาย และต้องการมาทำงานร่วมกัน เพื่อเป็นพรรคมวลชน สร้าง crowd sourcing และ Think Tank โดยสโลแกนของพรรคคือ “ผู้นำความบันเทิงสู่การเมืองไทย” และ “ไม่หาเสียง หาแต่เรื่อง” หมายถึงหาเรื่องทำนโยบาย ทั้งนี้ตนมองว่าการได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง ไม่สำคัญเท่ากับการสร้างสภาบันทางการเมืองของประชาชนได้จริงๆ ไม่ใช่พรรคของนายทุน หรือนักการเมืองบางกลุ่ม
(นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) พร้อมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคเกรียนเข้าจดแจ้งชื่อพรรคการเมืองที่ สำนักงาน กกต.)
นายสมบัติ และนายเดชรัตน์ สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วยสมาชิกอีก 22 คน เข้าแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่กับนายทะเบียนเป็นลำดับที่ 68 พร้อมชี้แจงต่อนายทะเบียนว่าชื่อพรรคเกรียน หมายถึง สั้น เป็นระเบียบ เรียบร้อย และพรรคนี้ต้องการให้การเมืองไทยเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้มีความหมายไม่ดีแต่อย่างใด
ระหว่างที่นายสมบัติให้สัมภาษณ์ นายวรัญชัย โชคชนะ ได้มาขอสมัครเป็นสมาชิกพรรค นายสมบัติจึงขอดูโทรศัพท์มือถือของนายวรัญชัย ว่าใช้รุ่นอะไร ปรากฎว่าเป็นโทรศัพท์รุ่นเก่าไม่ใช้สมาร์ทโฟน นายสมบัติจึงกล่าวต่อว่าถ้าไม่เปลี่ยนโทรศัพท์ก็เข้าพรรคไม่ได้ เพราะรับข่าวสารลำบาก พร้อมถามกลับว่านายวรัญชัย ลงสมัครรับเลือกตั้งมาแล้วกี่ครั้ง (15 ครั้ง) ตนนับถือในความพยายามของนายวรัญชัย ที่สอบตกทุกครั้ง ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับสื่อมวลชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง