นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ใน 4 เรื่อง ได้แก่
1.โครงการ Amazing Thailand Grand Sale Passport Privileges ระหว่างวันที่ 15 พ.ย. 2561 – 15 ม.ค. 2562 โดยผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรนด์สินค้าชั้นนำยอดนิยม ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้ มอลล์ บัตรเครดิต จัดกิจกรรม เช่น ให้ส่วนลดราคาสินค้าเพิ่มเติม On top พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว หรือให้สิทธิพิเศษจากปกติที่ศูนย์การค้าให้กับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว (หากนักท่องเที่ยวแสดง Passport ในช่วงเวลา Campaign )ส่งเสริมการจัด Sales Promotion ในหมวดสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยม และส่งเสริมการจัด Shopping Event ในศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและใช้ 'Passport Privileges' ณ ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ที่เข้าร่วมกิจกรรม
รวมทั้งการเปิดให้บริการพื้นที่พิเศษเพิ่มเติมแก่นักท่องเที่ยวในการคืนภาษี (VAT Refund) ในพื้นที่ย่านแหล่งท่องเที่ยว หรือ ห้างสรรพสินค้า สำหรับการซื้อสินค้าออกนอกราชอาณาจักร ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกรมสรรพากร
2.การเพิ่มความถี่ของการเดินทาง สำหรับหนังสือเดินทางที่ขอรับการตรวจลงตราแบบสามารถเดินทางได้ครั้งเดียว (Single Entry Visa) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย จากเดิมที่สามารถเดินทางได้ 1 ครั้ง เป็นสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ 2 ครั้ง (Double Entries Visa) ภายใน 6 เดือน โดยคิดค่าธรรมเนียมอัตราเดิม คือคนละ 1,000 บาท โดยกำหนดระยะเวลาการขอรับการตรวจลงตราที่สถานทูตเป็นระยะเวลา 2 เดือน รวมทั้งเพิ่มช่องทางตรวจวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนเป็นกรณีพิเศษในสนามบินนานาชาติ 5 แห่ง
3.การให้อนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) แบบอนุญาตครั้งเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีวีซ่าอยู่แล้ว (ทั้งแบบ TR และ VoA) โดยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของไทย สามารถกลับเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยอีก โดยไม่ต้องขออนุญาตอีกครั้ง และสามารถรักษาสิทธิ์การอยู่ในประเทศไทยตามระยะเวลาคงเหลือที่กำหนดในวีซ่าเดิม
4.แก้ไขหลักการกฎกระทรวงมหาดไทยในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 30 วัน (ผ.30) ซึ่งจะเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือด่านพรมแดนที่เป็นเขตติดต่อกับพรมแดนทางบก สามารถเข้ามาในประเทศไทยด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปีปฏิทิน
โดยมาตรการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 15 พ.ย. 2561-15 ม.ค. 2562 หรือ 2 เดือน และมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทย สร้างการรับรู้ และความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย, กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศในกลุ่มตลาดระยะกลางและใกล้, กระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในประเทศ, เพิ่มความถี่และขยายวันพักในการท่องเที่ยวในช่วงฤดูการท่องเที่ยว
เป้าหมายดันรายได้ท่องเที่ยวแตะ 2.28 ล้านล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยว 38 ล้านคน
สิ่งสำคัญคือการรักษารายได้จากการท่องเที่ยวไม่ให้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2562 ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 (ประมาณ 2.28 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้ ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือน ม.ค.- ต.ค. 2561 มีจำนวน 31 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.83 จึงคาดว่าเมื่อออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวจะผลักดันให้มียอดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้มากกว่า 38 ล้านคนตามเป้าหมาย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวไม่เคยนำออกมาใช้ทั้งการยกเว้นวีซ่าเดินทางไปกลับ การเดินทางเข้าประเทศได้ 2 ครั้ง จึงคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศได้อีกจำนวนมาก เพราะเพิ่มความเข้มข้นรักษาความปลอดภัย การจัดงานไทยแลนด์แกรนด์เซล ภาคเอกชนได้ร่วมใจลดราคาสินค้าจำนวนมาก
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมว.คลัง กล่าวว่า การเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยื่นขอคืนภาษี Tax Refund เปิดให้ผู้ประกอบการทุกรายที่มีความพร้อมตั้งจุดบริการคืนภาษีได้ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แยกจากการทดลองคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวของกรมสรรพากร เพราะมาตรการดังกล่าวใช้เป็นเวลา 2 เดือน คาดว่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้นเมื่อร่วมกับหลายมาตรการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :