นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตัวเลขเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่รัฐบาลตั้งไว้ในปี 2561 คือ 3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 2 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวชาวไทยอีก 1 ล้านล้านบาท ซึ่งสถานการณ์ท่องเที่ยว เดือนตุลาคม ปี 2561 ยอมรับว่าเป็นไปได้ยากที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะแตะเป้า 3 ล้านล้านบาท
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า เนื่องจากในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาไทยจำนวนทั้งสิ้น 31,253,920 คน จากยอดที่ตั้งเป้าไว้ 38 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวที่สัดส่วนร้อยละ 7.84 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้รวม 1.63 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 9.98 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 ล้านล้านบาท รัฐบาลยังต้องการเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมาเติมอีกถึง 3.7 แสนล้านบาท ในเวลาที่เหลืออยู่ 2 เดือน หมายความว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยต้องทำได้ดีมาก เพราะโดยเฉลี่ยในช่วงปลายปีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะทำได้ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท
"2 เดือนได้ 370,000 ล้านบาท เราต้องทำให้ได้เดือนละเกือบ 200,000 ล้านบาท ที่ผ่านมามันเฉลี่ยเดือนนึงอยู่ที่ 150,000 ล้านบาท จะให้ถึง 200,000 ล้านบาท ผมว่ามันใกล้ๆ ที่จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก" นายพงษ์ภาณุ กล่าว
จีนลด-ท่องเที่ยวไทยทรุด
ปัจจัยหลักที่ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงมาจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ช่วงมิถุนายนปีนี้ก่อนหน้าเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ล่มที่ภูเก็ตในเดือนกรกฏาคม สถานการณ์นักท่องเที่ยวในปัจจุบันแม้จีนจะยังเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับหนึ่งที่เข้ามาเที่ยวไทย แต่เมื่อดูที่สัดส่วนชาวจีนเข้ามาในไทยเมื่อเทียบกับปีก่อนลดลงถึงร้อยละ 20 รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวยุโรปก็ลดลงจากปัญหาความไม่แน่นอนในเรื่องเบร็กซิต อย่างไรก็ตามจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอาเซียนกลับเพิ่มเติมสูงขึ้น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับปีก่อน
ปัจจุบันรัฐบาลได้ออกมาตรการยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยวจีน (Visa on Ariival) ซึ่งเริ่มกำหนดใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อหวังกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้เข้ามาเที่ยวไทยด้วยการลดค่าธรรมเนียมต่างๆ เน้นการดึงดูดใจด้วยการลดราคาต่างๆ อย่างไรก็ตามจากตัวเลขที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มาหลังมีการปรับใช้ มาตรการ VoA จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงติดลบอยู่ที่ร้อยละ 10 แม้ปริมาณการติดลบจะน้อยลง แต่ยังไม่ถือว่ากลับเข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลยังต้องเน้นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยรวมถึงความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อเรียกความเชื่อมั่นคืนมา ทั้งยังต้องหากลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวอื่นๆ มาดึงดูดใจนักท่องเที่ยวชาวจีนท่ามกลางคู่แข่งชาติอื่นๆ ที่พยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน
ไทยเที่ยวไทยยังดี
ด้านนักท่องเที่ยวไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในเมืองหลัก 22 จังหวัด มีการปรับตัวสูงขึ้นที่ร้อยละ 4 มีคนท่องเที่ยวประมาณ 102,000 ล้านครั้ง-คน คิดเป็นมูลค่า 622,000 ล้านบาท สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองรอง ตัวเลขนักท่องเที่ยวขยายตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ 5 เป็นครั้งแรกที่การท่องเที่ยวในเมืองรองมีการขยายตัวมากกว่าเมืองหลัก โดยมีเม็ดเงินกว่า 165,000 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 9 โดยจังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่ทำรายได้สูงสุด ตามมาด้วย นครศรีธรรมราช และ อุดรธานี ส่วนเรื่องการเติบโตนั้น บุรีรัมย์มีการเติบโตสูงถึงกว่าร้อยละ 12 จากงานโมโตจีพี