เว็บไซต์เมโทรรายงานว่า บริษัท Legal Things ผู้ให้บริการสัญญาทางกฎหมายในรูปแบบดิจิทัลสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในเนเธอร์แลนด์ ทดสอบให้บริการแอปพลิเคชันชื่อว่า Legal Fling เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเสนอจุดแข็งเรื่องการทำสัญญาระหว่างผู้ต้องการสานความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้แน่ใจว่าความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายสมยอมกัน และจะไม่มีการกล่าวหาว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคุกคามทางเพศในภายหลัง ทั้งยังช่วยระบุขอบเขตความสัมพันธ์ที่ชัดเจนด้วย
เมโทรเปิดเผยรายละเอียดการใช้งานแอปฯ ดังกล่าว โดยระบุว่าจะเริ่มจากการส่งคำร้องไปยังคู่สัญญา เพื่อให้ยืนยันว่าความสัมพันธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นความสมยอม และจะมีเงื่อนไขย่อยอื่นๆ ให้ระบุด้วยว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจะรวมหรือไม่รวมเรื่องอะไรบ้าง เช่น ต้องใส่ถุงยางอนามัยหรือไม่, ยินยอมให้ถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอขณะที่กำลังมีความสัมพันธ์กันหรือไม่ รวมถึงการขอเอกสารยืนยันอย่างชัดเจนว่าคู่สัญญาไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะจุดขายของแอปฯ คือการย้ำว่า ความสัมพันธ์แบบถูกตาต้องใจไม่อาจคำนึงถึงความสนุกอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
ขณะที่เว็บไซต์ฟอร์จูนรายงานว่าการพัฒนาแอปฯ ลีกัลฟลิง เป็นผลจากกระแสต่อต้านการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะการรณรงค์ติดแฮชแท็ก #Metoo ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ และการสนับสนุนให้ฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายแก่ผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิงซึ่งเคยก่อเหตุคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ปกป้องคุ้มครองความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่างๆ
ฟอร์จูนระบุด้วยว่า การพัฒนาแอปฯ ลีกัลฟลิงอาจฟังดูเป็นเรื่องตลกและไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง แต่ 'อาร์โนลด์ เดเนียลส์' ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทลีกัลติงส์ ให้เหตุผลว่าการยืนยันด้วยวาจาอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการสานสัมพันธ์อย่างปลอดภัยในปัจจุบัน การใช้แอปฯ ลีกัลฟลิงจะช่วยให้การกำหนดขอบเขตความสัมพันธ์ชัดเจนมากขึ้น
เดเนียลส์ระบุว่าการบันทึกคำร้องจะดำเนินการผ่านเครือข่ายบล็อกเชน โดยผู้รับคำร้องสามารถยกเลิกคำยืนยันการสมยอมได้ในกรณีที่เปลี่ยนใจ แต่หากไม่มีการยกเลิกและฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิดเงื่อนไขที่เคยตกลงกันเอาไว้ อาจนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม เคน เหงียน ผู้บริหารบริษัทระดมทุนออนไลน์ 'รีพับลิก' ในสหรัฐฯ วิจารณ์ว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนไม่อาจรับรองความสัมพันธ์อันซับซ้อนของมนุษย์ได้ทุกแง่มุม หากจะมีการยืนยันความยินยอมเกิดขึ้นจริง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แอปฯ ที่อิงกับบล็อกเชน เพราะการส่งข้อความยืนยันทางสมาร์ทโฟนก็น่าจะพียงพอ
ส่วนแด็กซ์ แฮนเซน ผู้บริหารของบริษัท 'เพอร์กิน คัวส์' หนึ่งในผู้ให้บริการบล็อกเชน สนับสนุนแอปฯ ลีกัลฟลิง โดยระบุว่าการเก็บข้อมูลของลีกัลฟลิงดำเนินการผ่านบล็อกเชน ซึ่งจะมีการทำสำเนาข้อมูลโดยเชื่อมโยงกันภายในเครือข่ายออนไลน์ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงข้อมูลได้ และปลอดภัยกว่าการส่งข้อความธรรมดา