สำนักข่าวเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมในฮ่องกงเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเขาระบุว่า เขาไม่ได้ติดตามเรื่องนี้มากนัก แต่เขาคิดว่าสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนรับมือเรื่องนี้อย่างมีความรับผิดชอบมากแล้ว เพราะผู้ชุมุนมออกไปประท้วงกันนานแล้ว และ “จีนสามารถหยุดยั้งการชุมนุมได้ถ้าต้องการ”

ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่าการประท้วงในฮ่องกงเป็นไปอย่าง “ค่อนข้างไร้ความรุนแรง” โดยไม่ได้เจาะจงกล่าวถึงเหตุรุนแรงที่ม็อบเสื้อขาวไล่ตีผู้ประท้วงต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนและผู้โดยสารรถไฟทั่วไปที่สถานีรถไฟใต้ดินหยุ่นหลง และเขาหวังว่า สีจิ้นผิงจะ “ทำสิ่งที่ถูกต้อง”

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการประท้วงกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่า เขาคาดว่า จีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงจะหาทางออกร่วมกันได้ ส่วนกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็แสดง “ความกังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ พร้อมเรียกร้องให้ทางการฮ่องกงเคารพสิทธิในการประท้วงอย่างเสรีของประชาชน

สำนักข่าวเดอะวอชิงตันโพสต์เขียนบทบรรณาธิการวิจารณ์ว่า ทรัมป์ต่อว่าสังคมนิยมในประเทศ แต่กลับไปเข้าข้างค���มมิวนิสต์จีน เพราะที่ทรัมป์ชื่นชมว่าสีจิ้นผิงรับมือสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงได้ดีถือเป็นคำเชิญให้จีนปราบปรามการเคลื่อนไหวที่ต่อสู้เพื่อคุณค่าเสรีนิยมอย่างเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและหลักนิติธรรม

การประท้วงนี้ก็ปะทุขึ้นมาจากการต่อต้านการแทรกแซงความเป็นอิสระของศาลฮ่องกง เมื่อมีการระงับการเสนอกฎหมายดังกล่าวแล้ว การประท้วงก็ยังดำเนินต่อ เพื่อเรียกร้องให้สอบสวนกรณีที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการปราบปรามการชุมนุม โดยรากฐานของความไม่สงบทั้งหมดในฮ่องกงขณะนี้คือการต้านทางการครอบงำจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งที่สิทธิเสรีภาพของประชาชนในฮ่องกงได้รับการรับรองไปจนถึง 2047

แทนที่ทรัมป์จะย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ เหมือนที่เคิร์ต วอลเตอร์ ทง กงสุลสหรัฐฯ ในฮ่องกงที่เพิ่งลาตำแหน่งไม่นานนี้กล่าวไว้ว่า หากจีนครอบงำความเป็นอิสระของฮ่องกงจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจฮ่องกง ทรัมป์กลับย้ำว่า เขาและสีจิ้นผิงกำลังเจรจาข้อตกลงการค้ากัน และจีนจะซื้อสินค้าอเมริกันเพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ ทง กล่าวว่า ธุรกิจอเมริกันประมาณ 1,400 แห่งในฮ่องกงต้องอาศัยความเป็นอิสระและสิทธิเสรีภาพของฮ่องกงโดยไม่ถูกจีนแผ่นดินใหญ่แทรกแซง และผู้นำจีนต้องตระหนักว่าการบีบให้ฮ่องกงมีวัฒนธรรมการเมืองตรงกับจีนแผ่นดินใหญ่อาจเป็นการทำลายความพิเศษของเศรษฐกิจฮ่องกงไป

นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ยังเซนเซอร์สุนทรพจน์อำลาตำแหน่งของทง ในส่วนที่ทงกล่าวสนับสนุนผู้ประท้วงต่อต้านการแทรกแซงของจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกงไม่ควรเป็นเพียงข้อแลกเปลี่ยนในการเจรจาการค้า

ความรุนแรงต่อผู้ประท้วงในฮ่องกง

การประท้วงกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้จีนแผ่นดินใหญ่ดำเนินมากว่า 7 สัปดาห์แล้ว โดยมีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจปราบปรามจลาจลหลายครั้ง ตำรวจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้ความรุนแรงเกินจำเป็น เนื่องจากการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นไปอย่างสงบ 

เมื่อคืนวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงกว่า 400,000 คนออกมาชุมนุมครั้งใหญ่กันหน้าสำนักงานประสานงานจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ประท้วงบางส่วนได้ปาไข่ใส่เจ้าหน้าที่ บางส่วนฉีดสเปรย์ทำลายตราสัญลักษณ์ของจีนแผ่นดินใหญ่หน้าอาคารดังกล่าว ตำรวจปราบปรามจลาจลจึงตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางใส่ผู้ประท้วง

เมื่อผู้ชุมนุมแยกย้ายกันกลับบ้าน ในเวลาประมาณ 22.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ชายสวมหน้ากากและเสื้อสีขาวหลายสิบคนบุกเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้าหยุ่นหลงของฮ่องกง และได้เข้าไปทำร้ายร่างกายผู้โดยสารบนรถไฟ ทั้งยังมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 45 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน 

บริษัท MTR บริษัทบริหารการเดินรถไฟใต้ดินในฮ่องกงและผู้อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ตำรวจไม่ตอบสนองต่อความรุนแรงนี้ได้เร็วเท่าที่ควร โดยใช้เวลานานกว่า 35 นาทีกว่าจะเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจรู้เห็นกับม็อบเสื้อขาว แต่ตำรวจฮ่องกงได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับม็อบเสื้อขาว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• จากประท้วงแห่งความหวังของฮ่องกง สู่การประท้วงแห่งความสิ้นหวัง
• ก.ม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ‘ตายแล้ว’ แต่เศรษฐกิจฮ่องกงอาจไม่ดีขึ้น
• ทูตจีนขวางนักร้องฮ่องกงเรียกร้องปชต.ต่อยูเอ็น
• ทำไมชาวฮ่องกงนับล้านชุมนุมประท้วงต้าน ก.ม. ใหม่
• เรียนรู้จากฮ่องกง: ถ้าร่างกายต้องการปะทะแก๊สน้ำตา เตรียมตัวยังไง?