นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่เขตธนบุรี พร้อมด้วยนายศันสนะ สุริยะโยธิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 22 เบอร์ 11 พบปะประชาชน และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ โดยได้เข้ากราบสักการะหลวงพ่อโต ภายในวัดกัลยาณมิตร ศาลเจ้าเกียนอันเกง อายุมากกว่า 100 ปี และโบสถ์ซานตาครู๊ซ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ เช่น โรงขนมฝรั่งป้าเป้า บ้านเรือนไทยจันทนภาพ และบ้านกุฎีจีน
พร้อมกับกล่าวว่า พื้นที่ฝั่งธนบุรีมีศักยภาพอย่างมากในทางวัฒนธรรมและมีบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยารวมถึงสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่สวยงามอย่างมาก ซึ่งสามารถต่อยอดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ตรงกับนโยบายพรรคเรื่องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งการท่องเที่ยวชุมชนจะช่วยสร้างงานและเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้พี่น้องในเขตธนบุรี
นอกจากนี้ ในเขตธนบุรีก็มีพื้นที่หลายๆ ตลาดที่สอดรับกับโครงการตลาดชุมชนของพรรคที่สนับสนุนการสร้างตลาดชุมชนและถนนคนเดินชุมชน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนต่างๆ มีตลาดและของกินใกล้บ้านที่ราคาถูก มีมาตรฐาน และเป็นระเบียบและส่งเสริมให้พี่น้องหาบเร่แผงลอยสามารถประกอบอาชีพในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ได้มากขึ้น
นายกอบศักดิ์มั่นใจว่าเขตธนบุรีมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของคนกรุงเทพและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวกรุงเทพในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เสียงประชาชนที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐใน กทม.ตอบรับดี มีความคึกคัก ในหลายพื้นที่ที่มีโอกาสเข้าไปสื่อสารนโยบาย และมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งต้องทำงานอย่างหนัก
รอ กกต. เคาะ 'ประยุทธ์' ช่วยพรรคหาเสียง ลงดีเบตในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ได้หรือไม่
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ช่วยหาเสียงและร่วมดีเบตกับผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่นๆ หรือไม่นั้น อยู่ระหว่าง ที่พรรครอฟังความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ต้องตีความเรื่องดังกล่าวให้เรียบร้อย ในลักษณะที่เป็นทางการ
แต่ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับพรรคถือว่าได้ช่วยพรรคมากแล้ว เพราะ พรรคจะได้รับเสียงสนับสนุน จากประชาชนที่ชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์เพิ่มขึ้น พร้อมยอมรับว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ช่วยหาเสียงได้ พรรคพลังประชารัฐจะยิ้มได้กว้างขึ้น
นอกจากนี้ ยังถึงร่าง พ.ร.บ.ข้าว ว่ายังมีเวลาให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ทบทวนประเด็น ที่ยังมีความเห็นต่าง ควรปรับเปลี่ยน ให้พี่น้องชาวนามีความพอใจมากที่สุด หรืออาจชะลอออกไปก่อน เพื่อรับฟังเสียงประชาชนอย่างครบถ้วน ซึ่งหากยังไม่สามารถตัดสินใจได้ควรรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการ
อีกด้านหนึ่ง ยืนยันว่า ส.ว. 250คน ไม่ใช่จุดสำคัญในการขับเคลื่อนรัฐบาล เพราะการทำงานจำเป็นต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นจึงเห็นว่าการใช้เสียงส.ส.เพียง 126 คน รวมกับส.ว. 250 คนเพื่อจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นไปไม่ได้
ส่วนใครจะเป็นเสียงข้างมาก ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และคิดว่ายังเร็วไปที่จะบอกว่าใครจะเป็นพรรคที่นำการจัดตั้งรัฐบาลและ พรรคพลังประชารัฐจะร่วมกับพรรคการเมืองใด
รองโฆษกพลังประชารัฐ ชี้พรรคการเมืองท้า 'ประยุทธ์' ดีเบต เสียเวลาหาเสียง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ พรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เน้นนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ซึ่งประเทศไทยต้องการความสงบ ความสามัคคีเป็นอันดับแรก บุคคลที่เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องไม่ใช่คนที่เคยขึ้นเวทีเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง เพราะนั่นคือคนที่อยู่ในความขัดแย้งมาก่อน
ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐจึงเป็นทางออกของประเทศไทย
(ธนกร วังบุญคงชนะ)
อีกทั้ง พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ เราไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร แต่หลายพรรคพยายามจะให้เราเป็นคู่ขัดแย้งด้วย กลายเป็นเหมือนเราถูกรุม แต่เราจะมุ่งสู่การเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว และเชื่อว่านโยบายของพรรคจะตอบโจทย์พี่น้องประชาชนได้ สามารถสร้างความอยู่ดีกินดีให้กับพี่น้องประชาชนได้ โดยเฉพาะนโยบายราคาพืชผลทางการเกษตร นโยบายสวัสดิการต่างๆ นโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ขอให้เชื่อมั่นว่าทุกนโยบายพรรคทำได้จริง และบางนโยบายจะต่อยอดนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย โดยเราจะทำให้ดีกว่าเดิมอีก
ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นดีเบตด้วยนั้น นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงออกมาเรียกร้องแบบนี้ เพราะทุกพรรครู้ดีแก่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องดูข้อกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะท่านวางตัวเป็นกลางมาตลอด และเป็นสิทธิของท่านว่าจะดีเบตหรือไม่ก็ได้ วันนี้พรรคการเมืองบางพรรคก็ยังโจมตีท่านอยู่ดีไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูผิดไปหมดในสายตาของพรรคคู่แข่ง หลอกด่าท่านไปวันๆ อยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องแสร้งทำเป็นมาขอท้าดีเบต น่าจะเอาเวลาไปหาเสียงดีกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :