ไม่พบผลการค้นหา
แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ขอบคุณ 7.9 ล้านเสียงเทให้พรรคกวาด ส.ส.ทั่วภูมิภาค เตรียมเดินหน้ารวบรวมเสียงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดัน 'ประยุทธ์' นายกฯ

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พร้อมแกนนำพรรค แถลงหลังประชุมกรรมการบริหารพรรคถึงผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่า พรรคได้รับการสนับสนุนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศและได้รับคะแนนรวมสูงที่สุดทั่วประเทศ 7,939,937 คะแนน และได้รับคะแนนรวมสูงสุด และมีผู้ชนะเขตทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนและกำลังใจ และพรรคจะทำตามที่เคยสัญญาไว้เพื่อให้ตรงตามเจตนารมณ์ของพี่น้องทั่วประเทศ และการดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล พรรคยืนยันแนวทางว่าพรรคใดรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลได้ และพรรคเองก็ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุด และหลังจากนี้จะไปพูดคุยกับพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งและมีแนวทางการบริหารประเทศที่ไปในทิศทางเดียวกัน อุดมการณ์และนโยบาย และต้องหารือว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด 

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งรัฐบาลนั้น ต้องดูจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ทุกคะแนนเสียงไม่ได้ถูกทิ้งไป แตกต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับอื่น เพราะว่ามีการนับคะแนนนิยมของประชาชนทั่วประเทศ และหลักการของรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือทุกคะแนนเสียงของประชาชนไม่ได้ถูกทิ้ง ในอดีตที่ให้ผู้ชนะเขตเท่านั้นเข้ามาเป็นตัวแทน และจำนวน ส.ส.ที่พึงมีทั้งหมด ต้องคำนวณมาจากคะแนนรวมจากประชาชนทั่วประเทศ ดังนั้นพรรคเองก็ถือว่ามีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล ยึดเอาหลักการในรัฐธรรมนูญเป็นตัวตั้ง และไม่มองข้ามเสียงใดเสียงหนึ่งของประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจแก่พรรค และที่ได้จำนวน ส.ส.แบ่งเขตมาก ก็ไม่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ และบางเขตที่แพ้กันหลักร้อยจะไม่นับคนที่แพ้อย่างนั้นหรือ พรรคเห็นคุณค่าของทุกคะแนนเสียงมีความหมาย ซึ่งพรรคยึดหลักการรัฐธรรมนูญเป็นตัวตั้ง ว่ามีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลเนื่องจากได้รับคะแนนความนิยมรวมสูงสุด แต่ท้ายที่สุดใครที่รวบรวมเสียงได้มากที่สุดในรัฐสภานั่นคือพรรคที่จะได้เป็นรัฐบาล 

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันแล้ว เชื่อว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยจะเริ่มดำเนินการเร็วที่สุดแต่ยังบอกเวลาไม่ได้ และเริ่มดำเนินการในตอนนี้เลย ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาของการพูดคุยถึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่พรรค และมีพรรคอะไรบ้าง เพราะตนไม่ขอพาดพิง ว่าจะเทียบเชิญพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรในการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากเป็นเรื่องของพรรค ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติให้อำนาจกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้ดำเนินการ 

พลังประชารัฐ พปชร.แถลงข่าวพร้อมตั้งรัฐบาล อ้างได้คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตเยอะสุด

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคได้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรค มาโดยตลอด และเป็นฉันทามติของประชาชน จึงทำให้พรรคได้รับการไว้วางใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรทั้งสิ้นที่พรรคจะไม่เคารพเสียงของประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจกับพล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นจึงขอยืนยันว่าจะเสนอรายชื่อคนเดียว พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ภายใต้การรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ให้มีเสถียรภาพ ต้องได้คะแนนจาก ส.ส. เกิน 250 เสียง แต่จะต้องนำมารวมกับ คะแนนเสียงส.ว.ให้เกิน 376 เสียงหรือไม่นั้น ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไรพรรคก็จะดำเนินการไปตามนั้น 

เมื่อถามว่า พรรคคิดเห็นอย่างไร ที่มีบางส่วนออกมาเรียกร้องให้ ส.ว.เคารพมติของประชาชน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราเคารพ ส.ว. เพราะคือสถาบันที่ไว้วางใจ เชื่อมั่นว่า ส.ว. ก็เป็นห่วงบ้านเมืองเช่นกัน จึงถือเป็นเอกสิทธิ์ในการพิจารณา ซึ่งพรรคไม่ไปก้าวล่วง

ส่วนจะมีพรรคการเมืองใดเข้ามาพูดคุย หรือมีการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายอุตตมกล่าวว่า ตนไม่ขอเปิดเผย เพราะอยู่ในกระบวนการการพูดคุย 

ขณะเดียวกันนายสนธิรัตน์ ยังปฏิเสธตอบคำถามในกรณีที่การจัดการเลือกตั้งของกกต.ที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก เพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ของกกต.

ทั้งนี้นายอุตตม ทิ้งท้ายว่าหากมีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้วตนก็จะประกาศให้กับประชาชนทราบ แต่ไม่ระบุว่าก่อนหรือหลังกกต. ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าการประกาศผลการเลือกตั้งไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเจรจา

พลังประชารัฐ _33267804.jpg

จากนั้น น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 7 (เขตบางซื่อ - ดุสิต) พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในเขต ขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง