ไม่พบผลการค้นหา
'กอบศักดิ์' ควง 'มาดามเดียร์' หาเสียงช่วยผู้สมัครที่สวนรถไฟ เขตจตุจักร หวัง ชิงเก้าอี้ให้ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ชี้ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนกรุงเทพฯ แย้มมีปล่อยภาพ 'โอตะ โอตู่' ไม่สนใจโผรายชื่อ ส.ว.เพราะไม่เกี่ยวกับพรรค

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่บริเวณสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร ร่วมกันวิ่งออกกำลังกายและปั่นจักรยาน รวมทั้งพบปะประชาชนที่มาออกกำลังกาย เพื่อช่วย น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 6 พญาไท - ราชเทวี - จตุจักร (เฉพาะแขวงจัตุจักร - แขวงจอมพล) ขอคะแนนจากชาวจตุจักรที่มาออกกำลังกาย

โดยนายกอบศักดิ์ มั่นใจว่า ผู้สมัครของพรรคจะเป็นทางเลือกให้ชาว ราชเทวี พญาไท จตุจักร รวมถึงนโยบายของพรรค จากการเดินพบปะกับประชาชน ยังมีความต้องการที่จะให้พัฒนาเเละเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานคร เช่น นโยบายด้านสุขภาพ ขณะกันพรรคประชารัฐเติบโตย่างก้าวกระโดด ประชาชนรู้จักว่าเป็นพรรคที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคที่ทำนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเป็นพรรคที่ไม่ขัดแย้งกับใคร จึงทำใหนโยบายเข้าถึงในใจทุกคน เช่นเดียวกับการหาเสียง ปราศรัยที่ขอนแก่นวานนี้ ที่มีผู้คนจำนวนมาก จึงเห็นว่า วันนี้อีสานเปลี่ยนแล้ว และ ประเทศไทยกำลังเปลี่ยน พรรคพลังประชารัฐจึงเป็นส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศนำความสงบกลับคืนมาให้ทุกคนเดินหน้าต่อไปได้ 

ส่วนการปรับภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ หลังจากนี้ก็จะมีออกมาเรื่อย ๆ อาทิ โอตะ โอตู่ ซึ่งเป็นภาพที่น่ารัก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเห็นว่าบางครั้งมีการให้สัมภาษณ์กับนักข่าว จะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ หงุดหงิดใจ แต่จริงๆแล้ว ถ้าใครที่ได้ร่วมงานด้วยจะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนน่ารัก ยิ้มง่าย ตรงไปตรงมา แผนหลังจากนี้จะเร่งเดินหน้าหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย แม้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ออกปราศรัย แต่ก็ได้ให้คำปรึกษาพรรคษาพรรคอย่างใกล้ชิด ให้รับฟังปัญหานำมาทำนโยบายใหม่ ๆ โดยนโยบายใหม่ๆที่ออกมานั้นตรงใประชาชน เช่น นโยบายที่ชาวนายิ้ม ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา นโยบายเติมเงินบาทแรกให้ชาวนา ช่วยค่าปลูก ไร่ละ 1,500 ค่าเกี่ยวไร่ละ 2,000 และ ค่าเก็บ ตันละ 1,500

กอบศักดิ์ 43.jpg

นายกอบศักดิ์ ย้ำว่า กรุงเทพมหานคร เราเลือกผู้สมัคร ส.ส.กันมากี่ปีแล้ว ก็อยู่กับสิ่งเดิม ๆ ไม่มีความเปลี่ยนแปลง จึงขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่พร้อมเปลี่ยนแปลง กทม.นำนโยบายดีดีของพรรคพลังประชารัฐ อาทิ หาบเร่แผงลอย ถนนคนเดิน คลองสวยน้ำใสเลือกเหมือนเดิมก็ได้เหมือนเดิม ถึงเวลาที่ต้องเลือกผู้สมัครรุ่นใหม่เข้ามาเปลี่ยนเเปลง

นายกอบศักดิ์ ยังให้ความเห็นกรณีที่มีการนำเสนอโผรายชื่อบุคคลที่จะได้รับการสรรหาเป็น สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ซึ่งมีบุคคลใกล้ชิด ครอบครัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมถึงคนใกล้ชิดเหล่าทหาร จนอาจทำให้ถูกมองว่าพรรคพลังประชารัฐได้เปรียบ โดยระบุว่า ยังไม่เห็นรายชื่อ ไม่ทราบว่าใช้รายชื่อที่แท้จริงหรือไม่ และ ไม่ได้ให้ความสนใจเพราะไม่เกี่ยวพรรค แต่พรรคมีเป้าหมายเดียว คือ ต้องการให้ได้เสียง ส.ส.ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ หัวใจไม่ใช่ชนะเลือกตั้ง แต่หัวใจ คือ เอานโยบาย ที่สัญญากับประชาชน นำไปสู่การปฏิบัติให้ได้มากที่สุด เพราะเลือกตั้งเสร็จสถานการณ์การเมืองจะเปลี่ยนไปหมด เลือกตั้งเสร็จทุกอย่างต้องผ่านสภา ถ้ามีเสียงในสภาไม่พอ ทุกอย่างเดินหน้าได้ยากมาก ทุกนโยบายสามารถคนคัดค้านได้ตลอดเวลา เราก็จะเดินได้ยาก 

"ทางเดียวที่จะทำได้ พลังประชารัฐต้องได้เสียงให้เยอะ อย่างน้อยต้องให้ได้150 เสียง ขณะเดียวกันผู้ที่จะมาร่วมรัฐบาลต้องบวกกันให้เกิน 250 เสียง ไม่มีทางที่จะเอาเสียงข้างน้อยไปบวกกับ ส.ว. ซึ่งทำงานไม่ได้ ดังนั้น ส.ว.จึงไม่ใช่เป้าหมายของเรา และจากการฟังนโยบายของหลายพรรคก็มีนโยบายที่ดีมาก จึงหวังว่าจะได้มีโอกาสได้ร่วมทำงานกัน นำความสุขเปลี่ยนแปลง ตอบสนองพี่น้องประชาชน" นายกอบศักดิ์

ขณะที่ น.ส.ภาดาท์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 6 ขอโอกาสมาเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ ต้องที่จะมาช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่ สนใจด้านสิ่งเเวดล้อม มั่นใจว่าจะใช้ความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานได้ 

ด้าน น.ส. วทันยา เปิดเผยถึงการลงพื้นที่สิงห์บุรี ว่า ในพื้นที่มีผู้สมัครถึง 2 คน การออกพื้นที่แต่ละครั้ง ประชาชนให้การตอบรับดีมาก