ในพื้นที่ตอนกลางของประเทศจีนเกิดเหตุฝนตกหนัก ซึ่งส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพนอกพื้นที่ และเหตุน้ำท่วมจากฝนตกหนักได้ทำลายสะพานและทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งนี้ มีภาพวิดีโอของอาคารหลังหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของฉงชิ่ง ที่พังทลายลงจากการพัดถล่มของกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ในขณะที่สื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า สะพานรถไฟได้พังลงหลังจากเหตุน้ำที่ท่วม
ในช่วงไม่กี่วันนี้ ประชาชนจีนมากกว่า 10,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของประเทศจีน ซึ่งมีอาคารหลายสิบหลังพังทลายลงมาจากเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วม ทั้งนี้ มีการประเมินความเสียหายเบื้องต้นสูงถึงเกือบ 600 ล้านหยวน (ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท) จากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุน้ำท่วมในภาคเหนือของจีน รวมถึงมณฑลเหลียวหนิง จี๋หลิน และเฮยหลงเจียงด้วย
จีนเผชิญกับน้ำท่วมรุนแรงเป็นประจำ และเนื่องจากภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นนั้น ได้ส่งผลให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงบ่อยขึ้นในจีน และปัญหาต่างๆ มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ สำนักข่าว AFP รายงานว่า หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของจีนเตือนว่า จีนอาจเผชิญกับ “ภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้งในเดือน ก.ค. รวมถึงเหตุน้ำท่วม สภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง พายุไต้ฝุ่น และอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น”
ประชาชนในจีนต้องทนกับเดือน มิ.ย. ที่ร้อนที่สุด นับตั้งแต่ปี 2543 โดยจีนมีอุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน สำนักข่าว AFP ยังรายงานอีกว่า มณฑลส่านซีต้องทนกับการเกิดฝนตกหนัก “ครั้งแรกในรอบ 50 ปี” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วของจีน ควบคู่ไปกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก ส่งผลให้เมืองต่างๆ รวมถึงเมืองใหญ่ ๆ ของจีนมีความเสี่ยงจากเหตุน้ำท่วมที่เพิ่มสูงขึ้น
ในปี 2564 น้ำท่วมได้พัดผ่านเมืองเจิ้งโจว เมืองหลวงของมณฑลเหอหนาน ส่งผลให้ถนนของเมืองกลายเป็นแม่น้ำ และขังนักท่องเที่ยวไว้ในรถไฟใต้ดินที่ถูกน้ำท่วม โดยบางช่วงมีระดับน้ำท่วมลึกอยู่ในน้ำสูงระดับหน้าอก ทั้งนี้ ในเหตุน้ำท่วมครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน
ปัจจุบันนี้ จีนยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในปีนี้ โดยเหตุน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์จีนล่าสุดนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2541 ซึ่งเหตุน้ำท่วมในครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำแยงซี
ในตอนนี้ จีนเป็นประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก โดยจีนมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรืิอนกระจกประมาณ 1 ใน 4 ของการปล่อยก๊าซทั้งหมดที่มีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้น แม้ว่าจีนจะได้ให้คำมั่นว่า พวกเขาจะปล่อยมลพิษจนถึงจุดสูงสุดในปี 2573 และจะทำให้ประเทศของตัวเองมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2603
ที่มา: