นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ผมได้รับความรู้เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณจากนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า ถ้อยคำที่จะต้องกล่าวในการถวายสัตย์ฯ เป็นรูปแบบที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ที่ผู้ปฏิญาณตนจะต้องกล่าวตามนั้นให้ครบถ้วน เปรียบเทียบได้กับรูปแบบตามกฎหมายอื่นที่กำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม เช่น การโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หากไม่ทำตามให้ครบถ้วนตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนดการโอนย่อมไม่สมบูรณ์
หรือแม้แต่ในทางพุทธศาสนาก็มีรูปแบบที่ต้องกระทำเช่นกัน เช่น การอาราธนาศีลที่จะต้องเริ่มต้นด้วยการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ต้องพนมมือขึ้นแล้วจึงตั้งนะโมสามจบจากนั้นก็กล่าวคำอาราธนาศีลให้ครบถ้วน หากขาดตอนใดตอนหนึ่ง เช่น ไม่พนมมือ หรือตั้งนะโมไม่ครบสามจบ หรือกล่าวอาราธนาศีลไม่ครบถ้วน พระท่านก็จะไม่ให้ศีลเช่นกัน
การถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเรื่องที่รัฐมนตรีจะต้องกล่าวปฏิญาณตนต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำตามรัฐธรรมนูญ ความสมบูรณ์อยู่ที่ได้กระทำไปอย่างครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้แล้วหรือไม่ รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์ต้องทรงลงพระปรมาภิไธยเพื่อแสดงว่าการถวายสัตย์ฯ ได้กระทำไปครบถ้วนตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นำมาแอบอ้าง
นายวัฒนา ระบุว่า นายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญคือบริหารราชการแผ่นดินและรับผิดชอบต่อสภา เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถ้อยคำ��วายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วน ส.ส. ย่อมมีสิทธิที่จะตรวจสอบและพล.อ.ประยุทธ์มีหน้าที่ต้องมาตอบในสภา ดังนั้น ก่อนที่จะกล่าวหาคนตรวจสอบแบบที่เคยตัวและชอบทำก็ควรถามตัวเองก่อนว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ทำตามรัฐธรรมนูญจนเกิดปัญหาให้ต้องมาแก้ หากไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบต่อหน้าที่จะกระเสือกกระสนมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้เป็นภาระแก่ประเทศชาติและประชาชนทำไม"