ไม่พบผลการค้นหา
ช่วงเดือนที่ผ่านมาพบเด็กติดเชื้อ HIV ระบาดในเมืองทางตอนใต้ของปากีสถาน พบติดเชื้อแล้วกว่า 600 คน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการรักษากับหมอเถื่อน

เมื่อเดือนที่ผ่านมาหน่วยงานสาธารณสุขของจังหวัดซินห์ ทางตอนใต้ของปากีสถานรายงานว่า มีการตรวจเชื้อเอชไอวีในประชากร 18,418 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อเฮชไอวีอย่างน้อย 607 คน และกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ติดเชื้อนั้นเป็นเด็กที่มีอายุระหว่าง 1 เดือน - 15 ปี การตรวจหาเชื้อเฮชไอวีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีเด็กป่วยไข้โดยไม่ทราบสาเหตุพร้อมกันหลายคน และพบว่าเด็กที่มาทำการรักษาอย่างน้อย 15 คน มีเชื้อไวรัสดังกล่าวในร่างกาย

ดร. อิมราน อาร์บานี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวว่า "เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่าน เด็ก 15 คนได้ถูกส่งไปตรวจเลือดและพบว่าผลเลือดของพวกเขาเป็นบวก แม้ว่าผลเลือดในผู้ปกครองจะไม่พบกับเชื้อดังกล่าว"

การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีในเมืองซินห์ทางตอนใต้ของปากีสถานในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีก่อนหน้านี้ก็พบการระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวี ในกลุ่มเด็กเช่นกันโดยเมื่อปี 2016 พบผู้ติดเชื้อเอชไอวีในเขตดังกล่าวจำนวนกว่า 1,000 คน

ดร.อาซัด เมมอน ผู้อำนวยการโครงการควบคุมเอดส์ในเมืองซินห์ กล่าวว่า เชื้อไวรัสเอชไอวีนั้นมาจากกลุ่มที่มีความเสี่ยง ทั้งในกลุ่มคนข้ามเพศ หรือหญิงสาวที่ขายบริการทางเพศ ซึ่งประชากรกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ขาดการดูแลจากแพทย์ผู้เชื่ยวชาญและไม่ได้รับการบริการสาธารณสุขที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การถ่ายเลือด จึงเป็นผลให้มันเกิดการแพร่กระจายไปยังประชากรกลุ่มอื่นๆ

รายงานขององค์การสหประชาชาติรายงานว่า ปากีสถานเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีเร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย โดยในปี 2018 พบว่ามีผู้ติดเชื้อกว่า 20,000 คน ที่ผ่านมาปากีสถานเป็นประเทศที่ประสบกับปัญหาการเข้าถึงการบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่ขาดการเข้าถึงการให้บริการสาธารณสุขในระดับที่ได้มาตรฐาน 

แถลงการณ์ของUNAIDS ระบุว่า ตามรายงานบางฉบับของรัฐบาลพบว่า มีหมอเถื่อนอยู่ในปากีสถานกว่า 600,000 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งเกือบร้อยละ 50 ของหมอเหล่านี้ ได้เข้าไปให้บริการทางการแพทย์ในจังหวัดซินห์ของปากีสถานเช่นกัน และส่วนใหญ่หมอกลุ่มนี้มักจะใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเช่น การใช้เข็มฉีดยาซ้ำ การใช้เลือดที่ไม่ได้รับรองความปลอดภัยในการถ่ายเลือดให้ผู้ป่วย รวมไปถึงการให้บริการทางการแพทย์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะอนามัย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป้นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการกระจายของเชื้อไวรัสเอชไอวีในพื้นที่ดังกล่าว

ที่ผ่านมามีการจับกุมตัว ดร.มูซัฟฟาร์ กันโกร นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยข้อหาเป็นผู้แพร่เชื้อเอชไอวี ผ่านทางการใช้เข็มฉีดยา ทั้งนี้เขาได้ปฏิเสธว่าบุคคลที่มีเชื้อเอชไอวีนั้นไม่ใช่คนไข้ของเขา

ที่มา BBC / Aljazeera