นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า สถานการณ์การคลังของไทยมีภาวะขาดดุลงบประมาณเรื้อรัง มีรายรับของประเทศน้อยกว่ารายจ่าย ภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงมากจนยากต่อการใช้มาตรการการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเมื่อมาตรการหารายได้ของรัฐบาลไม่ชัดเจน แนวทางเดียวคือต้องควบคุมรายจ่าย โดยใช้เงินกับนโยบายที่ให้ผลตอบแทนได้สูงกว่าต้นทุน
การใช้เงินกับงบประมาณต่างๆ ต่อจากนี้ ต้องไตร่ตรองให้มากๆ เพราะทุกครั้งที่ใช้งบประมาณกับโครงการที่ให้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่าจะเป็นการซ้ำเติมภาวะขาดดุลและก่อหนี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
การอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลจึงควรค่าต่อการให้ความสำคัญ แต่เน้นย้ำว่ารัฐบาลต้องไม่นำเสนอนโยบายกว้างๆ ใช้คำสวยหรูแต่จับต้องไม่ได้ว่าจะทำอะไร ทำเท่าไหร่ ทำยังไง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเรื่องแหล่งที่มาของเงินและความคุ้มค่าของโครงการ ประชาชนต้องการเห็นการเสนอนโยบายที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม รัฐบาลต้องตรงไปตรงมากับประชาชน โดยต้องตอบและชี้แจงให้ประชาชนถึงข้อเท็จจริง ไม่พยายามหลีกเลี่ยง เพราะเงินทุกบาทที่รัฐบาลใช้คือเงินภาษีของประชาชน ซึ่งพวกเขามีสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้รู้ว่าเงินของพวกเขาถูกเอาไปใช้อย่างไร คุ้มค่าหรือไม่
นอกจากนั้น อะไรที่สัญญากับประชาชนไว้ก็ต้องทำ แต่หากสัญญาแล้วทำไม่ได้ก็ต้องออกมายอมรับกับประชาชน
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 57 กำหนดว่า นโยบายที่พรรคการเมืองนำเสนอ ต้องแสดงรายละเอียดต่างๆ เช่น วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงิน ความคุ้มค่าและประโยชน์ ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย หากพรรคการเมืองไม่ได้ชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีอำนาจสั่งลงโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :