ไม่พบผลการค้นหา
ครม. 'ประยุทธ์ 2/1' เผยคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 12 ด้านหลัก เน้นปกป้องเชิดชูสถาบันกษัตริย์-ความมั่นคงของประเทศ ชูบทบาทไทยในเวทีโลก ในส่วนวิถีชีวิตประชาชนจะมุ่งพัฒนาสวัสดิการ ลดเหลื่อมล้ำ ขณะที่นโยบายเร่งด่วนรับฟังความเห็นประชาชน - ปลดล็อกการแก้ รธน. ยังไม่กำหนดเวลาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บ. รอผ่านกรรมการไตรภาคีก่อน

วันที่ 21 ก.ค. 2562 ทำเนียบรัฐบาลเผยนโยบายคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เตรียมแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ค.ที่จะถึงนี้ โดยเอกสารมีความยาวประมาณ 40 หน้า ระบุว่า ครม.ได้กำหนดนโยบายบริหารราชการแผ่นดินที่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีความสอดคล้องกับหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ และหมวด 6 แนวนโยบายแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ตลอดจนยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 เรียบร้อยแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ครม.จึงขอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาให้ทราบถึงแนวทางการบริหารราชการแผ่นดินที่รัฐบาลจะดำเนินการ เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง สังคมไทยมีความสงบสุข สามัคคี และเอื้ออาทร คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความพร้อมที่จะดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21

โดยนโยบายหลัก 12 ด้าน ได้แก่ 1. การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ 3. การทำนุบำรุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม 4. การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก 5. การพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย 6. การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค

7. การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก 8. การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย 9. การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม 10. การพื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 11. การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ และ 12.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบและกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่นโยบายอีก 12 เรื่องที่จะดำเนินการภายใน 1 ปีต่อจากนี้ ประกอบด้วย 1. การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน 2. การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 3. มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก 4. การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม 5. การยกระดับศักยภาพของแรงงาน 6. การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต 7.การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่21

8. การแก้ไขปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการประจำ 9. การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ 10. การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน 11. การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย และ 12. การสนับสนุนให้มีการศึกษาการรับฟังความเห็นของประชาชน และการดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

คำแถลงในเอกสารดังกล่าวระบุด้วยว่า แม้ประเทศไทยจะมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยทั้งภายนอกและภายในประเทศเปลี่ยนไปมาก ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ที่มีความซับซ้อนสูงทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ การเข้าบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในครั้งนี้ จึงเป็นการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงที่สถานการณ์ต่างๆ มีความไม่แน่นอนในทุกมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการเข้าสู่สังคมสูงวัย รวมทั้งปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทยต้องดำเนินการตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยได้มีข้อผูกพันไว้ในเวทีโลก

โยน กก.ไตรภาคีเคาะค่าแรง - แก้ รธน.ยังไม่กำหนดเวลา

สำหรับ นโยบายสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท ที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียงไว้ มีกำหนดไว้ใน นโยบายเร่งด่วน ข้อ 5 ไม่ได้ระบุว่า จะขึ้นค่าแรงเมื่อใดและเท่าไร ระบุให้รอการพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคี ส่วนนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เงื่อนไขการเข้าร่วมของรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีกำหนดไว้ในนโยบายเร่งด่วน ข้อ 12 เพียง 3 บรรทัด ไม่ได้กำหนดเวลา แต่ตีกรอบว่า ให้มีพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม นโยบายเร่งด่วน ข้อ 7 การเตรียมคนไทยเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ยังมีจุดสนด้วยว่า จะเกิดการควบคุมข้อมูลข่าวสารในโซเชียลมีเดียหรือไม่ เพราะมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า "ให้สร้างความรู้ความเข้าใจการใช้ดิจิทัล สื่อออนไลน์ และโครงข่ายสังคมออนไลน์ของคนไทย เพื่อป้องกันและลดผลกระทบเชิงสังคม ความปลอดภัย อาชญากรรมทางไซเบอร์ และใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการกระจายข้อมูลข่าวสารท่ีถูกต้อง"

ด้าน นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขานุการประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีความห่วงกังวลเกี่ยวกับการส่งเอกสารร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จะต้องจัดส่งให้สมาชิกรัฐสภา ซึ่งแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ท่านได้ติดตามเรื่องนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ทราบว่าเอกสารเพิ่งเดินทางมาถึงที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารดีพร้อมฯ เมื่อ เวลา 12.35 น. ท่านจึงรีบสั่งการให้ดำเนินการบรรจุหีบห่อและจัดส่งให้กับสมาชิกรัฐสภาให้แล้วเสร็จ ภายในเวลา 14.00 ของวันเดียวกัน เพื่อให้สมาชิกมีเวลาพิจารณาศึกษาเอกสารดังกล่าวให้มากที่สุด ซึ่งนายชวน ได้เดินทางมากำกับดูแลในการดำเนินการบรรจุหีบห่อและส่งเอกสารดังกล่าวด้วยตนเองอีกด้วย ทั้งนี้ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวได้แล้วที่เว็บไซต์ของรัฐสภา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: