ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงศึกษาฯ รับเด็กนักเรียนฝึกงานอิสราเอลล็อตแรกกลับไทย ด้านที่ปรึกษารัฐมนตรีเผย แม้สถานการณ์ยังปลอดภัย แต่ผู้ปกครองไม่สบายใจจึงรับตัวเด็กกลับ 7 คนจาก 78 คน ยึดหลักสมัครใจ ที่เหลือหากประสงค์กลับไทยพร้อมรับกลับทั้งหมด

วันที่ 22 ต.ค. นักเรียนอาชีวะที่ศึกษาฝึกงาน ในประเทศอิสราเอล ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยมี สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ไปรอรับ

สิริพงศ์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาติดตามดูแลความเป็นมาเป็นไป รวมถึงความปลอดภัยของนักเรียนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีที่เดินทางไปศึกษาฝึกงานที่ประเทศอิสราเอล เนื่องจากหลังมีข่าวความไม่สงบในอิสราเอล ขณะที่ผู้ปกครองมีความเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย ทางกระทรวงจึงเปิดโอกาสให้เด็กและผู้ปกครองทำความเข้าใจกันเพราะการเดินทางกลับเป็นไปด้วยความสมัครใจ จนในที่สุดมีนักเรียนทั้งหมด78คน โดยแสดงความจำนงค์เดินทางกลับทั้งหมด 7 คน ส่วนที่เหลือ71คน ยืนยันจะอยู่ศึกษาฝึกงานต่อ โดยที่ผู้ปกครองอนุญาต

ทั้งนี้ สิริพงศ์ เปิดเผยว่า สำหรับนักเรียนที่อยู่ศึกษาฝึกงานต่อทางกระทรวงก็จะติดตามความเป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง และหากใครประสงค์จะเดินทางกลับก็สามารถติดต่อกลับมาได้ ซึ่งคนที่เดินทางกลับมาแล้วทางโครงการจะหาที่ศึกษาฝึกงานในประเทศให้จนครบกำหนด แต่หากใครประสงค์เดินทางกลับไปที่ประเทศอิสราเอลอีกครั้งต้องรอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย 

สำหรับโครงการศึกษาฝึกงานต่อที่ประเทศอิสราเอลในปีหน้าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็คงต้องมีการทบทวนมาตรการในการส่งนักเรียนไปศึกษาดูงานต่ออีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการการทรวงศึกษาธิการได้มีการฝากความห่วงใยถึงนักเรียนที่ศึกษาฝึกงานที่อิสราเอลและขออภัยที่ไม่สามารถเดินทางมารับได้เนื่องจากติดภารกิจที่ต่างจังหวัด ซึ่งวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีการให้ตนมอบพระเครื่องเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักเรียนอีกด้วย นอกจากนี้ทางอาชีวะได้มีการจัดเตรียมสถานที่พักให้กับนักเรียนที่ยังไม่ประสงค์เดินทางกลับ

ด้าน ยอดชาย คิ้วกลาง นักเรียนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด เปิดเผยภายหลังเดินทางออกจากประเทศอิสราเอลถึงประเทศไทย ว่า ตัวเองไปศึกษาฝึกงานได้ประมาณเกือบ 3 เดือน ซึ่งสถานการณ์ยังคงปกติ มีความปลอดภัย แต่ผู้ปกครองไม่สบายใจจึงอยากให้เดินทางกลับเพราะกลัวว่าสถานการณ์อาจบานปลายหากยังรอในอนาคตอาจเดินทางกลับไม่ได้ แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าเมืองที่อยู่มีความปลอดภัยสูง คนในเมืองยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ เดินทางออกไปทำงานได้แต่ออกนอกเมืองไม่ได้มีทหารคอยคุ้มกันอยู่ ในส่วนของตนเองและเพื่อนๆ ติดตามข่าวสารจากช่องทางออนไลน์มาโดยตลอด นายจ้างเองก็บอกทุกวันว่าปลอดภัย แต่ก็ยอมรับว่า ส่วนตัวก็มีความกังวลในสถานการณ์อยู่บ้าง

ด้าน ทักษิณ วัฒนุยาน นักเรียนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด ยอมรับว่า ในเมืองอลาวาแม้จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยแต่ได้ยินเสียงทุกครั้งที่ระเบิดลงทุกครั้งในจุดอื่นในพื้นที่ใกล้เคียง แม้เสียงจะไม่ดังมาก แต่อิสราเอลก็ดูแลเป็นอย่างดี มีการแจ้งเตือนตลอดว่าหลุมหลบภัยอยู่จุดใด สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร