ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงพาณิชย์ ประเมินการส่งออกปี 2561 ขยายตัวได้ 5-7% จับตามาตรการกีดกันการค้าประเทศใหญ่ ขณะที่กระทรวงคลังเร่งหามาตรการให้เงินบาทอ่อนค่าลง หวั่นปัญหาบาทแข็งกระทบส่งออกและเศรษฐกิจไทย

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงตัวเลขการส่งออกปี 2561 ว่า ทาง สนค.ประเมินการส่งออกปีนี้จะสามารถขยายตัว 5-7% คิดเป็นมูลค่า 248,529-253,263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยประเมินอัตราแลกเปลี่ยนที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมองว่าค่าเงินบาทแข็งค่า เกิดจากเศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้น จึงมีการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ ส่งผลต่อค่าเงินให้แข็งค่าเป็นธรรมดา และเชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสามารถดูแลให้ค่าเงินไม่ผันผวนจนเป็นผลกระทบต่อการส่งออกได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือมาตรการกีดกันการค้าของประเทศใหญ่ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกายังคงต้องมีการจับตาอย่างใกล้ชิด ขณะที่มองว่าสินค้าเกษตรของไทยเชื่อว่า จะยังสามารถส่งออกได้ดีต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกรในประเทศ

ส่วนมาตรการแก้เงินบาทแข็งค่า นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการหามาตรการทางการคลังเพิ่มเติม เพื่อทำให้ค่าเงินบาทที่กำลังแข็งค่าต่อเนื่องอ่อนค่าลงมา เพื่อไม่ให้กระทบกับการส่งออกและการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศไทย

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เร่งชำระหนี้ต่างประเทศก่อนกำหนด ซึ่งทำได้ส่วนหนึ่งแต่ไม่มากนัก เพราะปัจจุบันประเทศไทยกู้เงินจากต่างประเทศน้อย เพราะสภาพคล่องในประเทศมีจำนวนมาก หลายปีที่ผ่านมาจึงกู้ภายในประเทศเป็นหลัก

ด้าน นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่า เพราะมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ส่วนกรณีดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังอยู่ที่อัตรา 1.5% ต่อปีนั้น คิดว่ามีความเหมาะสมใกล้เคียงกับดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.25-1.50% และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งน่าจะทำให้เงินทุนไหลเข้าไทยลดลง และทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้