รายงานจากคณะกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการสภาดิจิทัลฯ ชุดที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้งทั้ง 36 คน จาก 6 กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่่ผ่านมา ได้มีวาระพิจารณาแต่งตั้งประธานสภาฯ โดยมีคณะกรรมการเสนอชื่อ นายศุภชัย เจียรวนนนท์ เพียงรายชื่อเดียว และที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้นายศุภชัย ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นคนแรก
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2562 ระบุว่า สภาฯ นี้มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ 6 ข้อ ประกอบด้วย
1.ให้เป็นตัวแทนของสมาชิกผู้ประกอบธุรกิจและอุตสาหกรรมดิจิทัล ในการเสนอความเห็น ประสานงาน และสนับสนุนดำเนินงานด้านนโยบายระหว่างภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมดิจิทัล
2.เสนอความเห็นและเสนอแนะต่อภาครัฐในเรื่องเกี่ยวกับกฎระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและอุตสาหกรรมดิจิทัล
3.ส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาขีดความสามารถของการประกอบธุรกิจหรืออุตสาหกรรมดิจิทัลให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
4.ส่งเสริมการพัฒนาทักษะของบุคลากรด้านดิจิทัลให้มีมาตรฐานสากล
5.ส่งเสริมและกำกับดูแลให้เกิดคุณภาพ มาตรฐาน และจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจหรืออุตสาหกรรมดิจิทัล รวมทั้งควบคุมดูแลให้สมาชิกปฏิบัติตามข้อบังคับของสภาและกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและอุตสาหกรรมดิจิทัล
6.ดำเนินกิจการอื่นเพื่อการพัฒนาธุรกิจหรืออุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีอำนาจสั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานของสภา สั่งเป็นหนังสือให้คณะกรรมการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการของสภา และจะให้ส่งเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินงานหรือรายงานการประชุมของคณะกรรมการด้วย และสั่งเป็นหนังสือให้สภาหรือคณะกรรมการระงับหรือแก้ไขการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายนโยบายของรัฐบาล มติของคณะรัฐมนตรี หรือข้อบังคับ เมื่อสั่งการอย่างใดแล้วให้รายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
พร้อมกันนี้เมื่อพ.ร.บ.นี้ใช้บังคับแล้ว ให้สมาคมสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นอันยกเลิก และให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ และหนี้ของสมาคมฯ ที่มีอยู่ในวันที่ พ.ร.บ. นี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไปเป็นของสภาฯ นับตั้งแต่วันที่พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ (1 พ.ค. 2562)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :