นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์และประธานกรรมการ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กล่าวในวันเปิดงาน T.O.P 2019 - Togetherness of Possibilities พร้อมเปิดตัว 'ทรู ดิจิทัล พาร์ค' ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลแห่งแรกในไทยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเป็นทางการ ว่า มีเป้าหมายให้ทรู ดิจิทัล พาร์ค เป็นฮับแชร์ริ่งความรู้ นวัตกรรม และบ่มเพาะสตาร์ทอัพไทยให้ประสบความสำเร็จ เกิดเป็นระบบนิเวศของธุรกิจเทคโนโลยีที่สมบูรณ์
โดยปัจจุบัน ทรู ดิจิทัล พาร์ค เฟส 1 สร้างเสร็จแล้ว มีนวัตกรได้มากถึง 10,000 คน และเฟส 2 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน จะเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะสามารถสร้างนักพัฒนานวัตกรรมได้มากถึง 25,000 คน
"เรามีระบบนิเวศที่ดีในระดับหนึ่ง เป็นศูนย์รวมที่ดีในการสร้าง tech market place ซึ่งสตาร์ทอัพสามารถร่วมมือกันแชร์ความรู้ เสริมสร้างกันและกัน" นายศุภชัย กล่าวและว่า ที่นี่ควรสร้างหลายปีแล้ว แต่ก็เสียเวลาก่อสร้างไป 3 ปี ดังนั้นที่จี่ไม่ได้สำคัญแค่สำหรับทรู แต่มองว่า จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยดีขึ้นด้วย
"โครงสร้างพื้นฐานที่อยากลงทุนขั้นต่อไป จะเป็นเรื่องคน บางครั้งนักพัฒนา อาจจะไม่สามารถเชื่อมโยงเรื่องการบัญชี แหล่งเงินทุน หรือจะเชื่อมความรู้ ที่นี่ก็จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่จะช่วยประเทศ เป็นหนึ่งในอินโนเวชั่นเซ็นเตอร์ในภาคเอกชน" นายศุภชัย กล่าว
พร้อมให้ความคิดเห็นว่า แต่ละประเทศ มีความถนัดแตกต่างกันไป เช่น ญี่ปุ่นถนัดระบบอัตโนมัติ เฮลท์แคร์ จุดยืนแต่ละประเทศด้านเทคโนโลยีแตกต่างกัน ซึ่งไทยต้องมีเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีข้อดีด้านเทคโนโลยีก็คือคนไทยมีดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่าคนอื่น มีการบริโภคอินเทอร์เน็ตเยอะ อย่างไรก็ตาม เราก็ยังใช้เทคโนโลยีที่ผลิตจากต่างประเทศ จึงเป็นโจทย์สำคัญ ที่จะสร้างให้เกิดระบบนิเวศในประเทศไทยเพื่อสร้างบริษัทที่เป็นยูนิคอร์นระดับโลกได้
เดินหน้าสู่ธุรกิจเทคฯ ระดับโลก หลังทุ่ม 796 ล้านบาท ซื้อหุ้น 'CRAVE' ในอังกฤษ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน เม.ย. 2562 บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในเรื่องการเข้าลงทุนในบริษัท CRAVE Interactive Limited โดยระบุว่า บริษัท ทรู ดิจิตอล แอนด์ มีเดีย แพลตฟอร์ม จำกัด หรือ TDMP เข้าลงทุนในบริษัท เคฟ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด หรือ CRAVE ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจโรงแรมและการบริการ จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของสหราชอาณาจักร
ทรูฯ มีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ CRAVE เพื่อต่อยอดการบริการ IoT (Internet of Things) ของกลุ่มบริษัทฯ
นายศุภชัย ยืนยันถึงความเชื่อมั่นว่า ในอนาคต ระบบโรงแรมจะต้องพึ่งพิงระบบดิจิทัลคีย์การ์ดในการบริการ
ทั้งนี้ ประธานกรรมการกลุ่มทรูเผยเพิ่มว่า ปัจจุบัน ธุรกิจทรูคอร์เปอเรชั่น อยู่ในจุดค่อนข้างดี แม้การเติบโตดูเหมือนชะลอไปบ้างในครึ่งปีแรก แต่ในครึ่งปีหลังจากกลับมา ทั้งจากโปรดักส์กลุ่มบรอดแบนด์ และไฟเบอร์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ครบ รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทรูไอดี (แอปพลิเคชันสำหรับความบันเทิงและวาไรตี้ต่างๆ ) และทรูไอดีบ็อกซ์ (กล่องรับสัญญาณวิทยุโทรทัศน์) ตลอดจนดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งการลงทุนเสร็จพร้อมกันหมด
"ก้าวต่อไปเราต้องการเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาค ทั้งอาเซียนและเอเชีย และคาดหวังไปสู่ระดับโลก ปัจจุบันทรูไอดี เริ่มในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์แล้ว ขณะที่ทรูมันนี่ก็มีอยู่ใน 5 ประเทศอาเซียน" นายศุภชัย กล่าว