ไม่พบผลการค้นหา
"วิษณุ เครืองาม" เผยไม่กลัวถูก "เรืองไกร" ยื่นสอบคุณสมบัติ ไม่หนักใจฝ่ายค้านจองกฐินเตรียมอภิปรายในสภา มองว่าเป็นเรื่องปกติ บอกประชาชนไม่ต้องตื่นเต้นทำใจให้สนุก เป็นเกมการเมืองที่เกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ตรวจสอบ 6 สมาชิกวุฒิสภา ถือครองหุ้นสื่อ อาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ รวมถึงเตรียมสอบคุณสมบัติ คณะรัฐมนตรีใหม่จำนวน 4 คนรวมถึงตนเอง ว่าไม่ทราบไม่รู้เรื่อง แต่ไม่เป็นไรถือเป็นสิทธิสามารถยื่นคำร้องให้ตรวจสอบได้ไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อว่าไม่กระทบการทำงาน และส่วนตัวก็ไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรเพื่อชี้แจงเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันนายเกรียงไกร ก็ไม่สามารถมาทำอะไรในรัฐสภาได้อยู่แล้ว หากใครถามตนก็จะชี้แจง เช่นเดียวกับประเด็นที่ฝ่ายค้านจองกฐินเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีใหม่จำนวนหลายท่าน รวมทั้งตนเองนั้น ว่าขอบคุณที่บอกจะได้เตรียมตัว และไม่ได้รู้สึกหนักใจ แต่เบาใจด้วยซ้ำ

ส่วนกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นจะทำให้รัฐบาลทำงานยากขึ้นหรือไม่นั้น มองว่าเป็นแบบนี้ทุกยุคจึงไม่เป็นปัญหาอะไร เมื่อเกมเข้าสภาก็ต้องทำตามกติกา หากใครมีข้อสงสัยหรือลุกขึ้นอภิปรายก็ต้องมีการชี้แจง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะตนก็เคยเป็นสมาชิกสภาแต่งตั้ง และอยู่ร่วมกับสภาเลือกตั้งในเวลาแถลงนโยบาย เห็นมาหลายยุคหลายสมัย ไม่แปลกเป็นเรื่องธรรมดา

ดังนั้น ประชาชนไม่ต้องตื่นเต้น หรือตกใจ ขอให้ทำใจให้สนุก เรื่องดังกล่าวไม่มีอะไรทำให้เกิดมลทิน ไม่มีอะไรทำให้มัวหมอง เป็นเรื่องของใครบุคคลนั้นจะต้องอธิบายเอง เช่นกรณี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ถูกยื่นตรวจสอบคุณสมบัติก็ไม่มีใครมาปรึกษาตนเป็นการส่วนตัว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็รู้กันอยู่ว่า กติกาหรือเกมการเมือง มีอะไรบ้าง และมองเป็นเกมการเมืองที่มีการเตรียมการไว้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าเป็นหน้าที่ไม่ใช่เกมในความหมายของวิชามาร แต่เป็นหน้าที่ว่าเมื่อสงสัยก็ให้ถามและนำไปสู่การตั้งกระทู้เมื่อตอบแล้วไม่เชื่อ ก็ต้องนำไปสู่การอภิปราย เป็นเรื่องปกติขณะเดียวกันก็ไม่ได้กลัวกระแสสังคม และไม่ได้ท้าทาย แต่หลักมีอยู่เพียงว่าเมื่อเข้าใจผิดก็ต้องชี้แจง

ทั้งนี้ นายวิษณุ เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นจากต่างประเทศเพราะเข้าใจดีในกติกาเช่นนี้ พร้อมชี้แจงถึงขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาที่จะเกิดขึ้น ในวันที่ 24 -25 ก.ค. นี้ ว่าเรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบเพราะวิปรัฐบาลเป็นผู้กำหนดร่วมกับประธานสภาและคุยกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึงวุฒิสภาด้วย เพราะการแถลงนโยบายเป็นการประชุมร่วม ส่วนการกำหนดไทม์ไลน์แถลงนโยบาย ร่างต้องเสร็จเรียบร้อยก่อน

จากนั้นคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบก่อนจะตีพิมพ์และส่งให้สมาชิกอย่างน้อย 3 วัน ซึ่งสภาก็จะกำหนดว่าจะเป็นวันใด หากเร็วได้ก็ดีจะได้เริ่มงานเร็ว ยังไงก็ตามสำหรับการขอประทานวันเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน นายกฯ ได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อวานนี้ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการแต่อย่างใด