ไม่พบผลการค้นหา
คณะกรรมการโรงเรียนใหญ่ 4 แห่งในแคนาดา ได้ยื่นฟ้องบริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่ที่สุดของโลก 3 แห่ง โดยในคำฟ้องของพวกเขากล่าวหาว่า แพลตฟอร์มต่างๆ ได้ขัดขวางวิธีการเรียนรู้ของนักเรียน และทำให้เด็กๆ เสพติดการใช้โซเชียลมีเดียอย่างรุนแรง

คณะกรรมการโรงเรียทั้ง 4 แห่งได้เรียกร้องค่าเสียหายมูลค่าประมาณ 2.9 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (ประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท) โดยพวกเขากล่าวหาว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้รับการออกแบบโดยประมาทเลินเล่อ เพื่อการใช้งานโดยบีบบังคับ (และ) ได้เปลี่ยนวิธีคิด พฤติกรรม และการเรียนรู้ของเด็กๆ ไป

นักเรียนกำลังประสบกับ “ภาวะวิกฤตการเรียกร้องความสนใจ การเรียนรู้ และสุขภาพจิต อันเนื่องมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์โซเชียลมีเดียอย่างล้นหลามและถูกบีบบังคับ” คณะกรรมการระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 มี.ค.)

คำฟ้องทั้งหมดถูกยื่นแยกออกจากกัน แต่คำฟ้องทั้งหมดระบุถึงจำเลยเป็น Meta Platforms Inc ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram, Snap Inc ซึ่งดำเนินการ Snapchat; และบริษัทแม่ของ TikTok อย่าง ByteDance Ltd.

คอลลีน รัสเซลล์-รอว์ลินส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาของคณะกรรมการโรงเรียนเขตโตรอนโต ซึ่งเป็นคณะกรรมการโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา และเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยื่นฟ้องร้องในครั้งนี้กล่าวว่า “อิทธิพลของโซเชียลมีเดียที่มีต่อเยาวชนในโรงเรียนทุกวันนี้ไม่อาจปฏิเสธได้”

“สิ่งนี้นำไปสู่ปัญหาที่แพร่หลาย เช่น ความว้าวุ่นใจ การถอนตัวจากสังคม การกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต ความก้าวร้าวที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และความท้าทายด้านสุขภาพจิต ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราต้องดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า เยาวชนของเรามีความเป็นอยู่ที่ดี” รัสเซลล์-รอว์ลินส์ กล่าวในแถลงการณ์

นอกจากคณะกรรมการโรงเรียนเขตโตรอนโตแล้ว ฝ่ายโจทก์ยังมีคณะกรรมการโรงเรียนอีก 3 แห่งที่ร่วมยื่นฟ้องร้องในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ คณะกรรมการโรงเรียนเขตพีล คณะกรรมการโรงเรียนเขตคาทอลิกโตรอนโต และคณะกรรมการโรงเรียนเขตออตตาวา-คาร์ลตัน

จากงานศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์ม เช่น Facebook และ Instagram สามารถทำให้ผู้ใช้เสพติดได้ และการใช้งานเป็นเวลานานอาจนำไปสู่ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

ในเดือน พ.ค. 2566 วิเวก เมอร์ธี แพทย์ใหญ่สหรัฐฯ กล่าวว่า “มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นว่าการใช้โซเชียลมีเดียเกี่ยวข้องกับอันตรายต่อสุขภาพจิตของคนหนุ่มสาว” พร้อมกันนั้นเอง เมอร์ธีกล่าวว่าเด็กๆ ต้องเผชิญกับเนื้อหาที่มีความรุนแรงและเรื่องเพศบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่นเดียวกับการกลั่นแกล้งและการคุกคาม และการที่เด็กๆ สัมผัสกับแพลตฟอร์มต่างๆ อาจนำไปสู่การอดนอนและตัดขาดจากเพื่อนและครอบครัว

แถลงการณ์แพทย์ใหญ่สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วระบุว่า เด็กอายุ 13 ถึง 17 ปี มากถึง 95% กล่าวว่าพวกเขาใช้โซเชียลมีเดีย ในขณะที่ 1 ใน 3 กล่าวว่าพวกเขาใช้โซเชียลมีเดีย “เกือบตลอดเวลา”

“เราอยู่ท่ามกลางวิกฤตสุขภาพจิตของเยาวชนระดับชาติ และผมกังวลว่าโซเชียลมีเดียจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของวิกฤตนั้น ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน” เมอร์ธีกล่าว

เมื่อปีที่แล้วมีมลรัฐในสหรัฐฯ 33 มลรัฐยื่นฟ้อง Meta โดยกล่าวหาว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตในเด็กเล็กและวัยรุ่น

ในขณะเดียวกันในแคนาดา ตามรายงานของ CBC News โฆษกของ Snap Inc บอกกับสื่อของแคนาดาว่า Snapchat ได้รับการออกแบบโดยตั้งใจให้แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ “Snapchat เปิดไปที่กล้องโดยตรง แทนที่จะเป็นฟีดเนื้อหา และไม่มีการกดถูกใจหรือแสดงความคิดเห็นแบบสาธารณะ” โฆษก Snap Inc กล่าว 

“แม้ว่าเราจะมีงานที่ต้องทำมากขึ้น แต่เรารู้สึกดีกับบทบาทของ Snapchat ในการช่วยให้เพื่อนสนิทรู้สึกเชื่อมโยง มีความสุข และเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายมากมายของวัยรุ่น” Snap Inc กล่าวเสริม

ดั๊ก ฟอร์ด นายกรัฐมนตรีออนแทรีโอ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากการแถลงการฟ้องร้องของคณะกรรมการ 4 แห่ง ต่อแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย 3 แห่ง ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับความพยายามของคณะกรรมการโรงเรียน

“มามุ่งเน้นไปที่ค่านิยมหลักของการศึกษากันดีกว่า มามุ่งเน้นที่คณิตศาสตร์ การอ่านและการเขียนกันดีกว่า นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ คือ ทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดให้กับเด็กๆ” ฟอร์ดกล่าวกับผู้สื่อข่าว “มามุ่งเน้นไปที่เด็กๆ ไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องไร้สาระอื่นๆ ที่พวกเขาต้องการต่อสู้ในศาล”


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2024/3/28/canadian-school-boards-sue-social-media-giants-over-effects-on-students?fbclid=IwAR1TD9EX4vX7CuNUYdS9aYbwVZLE3XxORDJxeEJEawSNisBQKjWllaphFy4_aem_AfdbrP-pLjR8t0fiBgATKVzOyBP-fUXSM93HMIDYzvPCQq-LWPqBrgmBm6kBF0OvhpShmT7qBPPf0lZwr8gdPeDx