ต่างประเทศ
‘สี’ จ่อนัดพบกลุ่มนักธุรกิจอเมริกัน คาดหวังดึงลงทุนเข้าจีน หลังเศรษฐกิจยังฟุบ
ตามรายงานของ The Wall Street Journal การหารือดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันพุธนี้ (27 มี.ค.) โดยมีการคาดการณ์ว่าการประชุมจะมี ทิม คุก CEO ของ Apple, สตีเฟ่น เอ. ชวาร์ซแมน CEO ของ Blackstone และ โนเอล ควินน์ CEO ของ HSBC เข้าร่วมด้วย
ผู้บริหารระดับสูงของโลกหลายคนต่างเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุม China Development Forum ซึ่งจัดขึ้นในวันอาทิตย์ (24 มี.ค.) และวันจันทร์ (25 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยมีบุคคลสำคัญอื่นๆ ที่เข้าร่วมการประชุม ได้แก่ อาเจย์ บังกา ประธานธนาคารโลก, คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และตัวแทนของบริษัทข้ามชาติมากกว่า 100 แห่ง
แม้ว่าผู้นำทางธุรกิจจะสามารถพบปะกับผู้นำอาวุโสของจีนหลายคนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่คำเชิญให้พบกับสีเป็นการส่งสัญญาณถึงความพยายามร่วมกันของทางการจีน ในการจัดการกับการรับรู้เชิงลบที่นักธุรกิจทั่วโลกมีต่อจีน เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบันของประเทศ
เมื่อปีที่แล้ว การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีนมีอัตราลดลง 8% เนื่องจากบริษัทต่างๆ ลดขนาดการดำเนินงานและพยายาม "ลดความเสี่ยง" ในธุรกิจของตนที่ดำเนินการอยู่ในจีน ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ยังคงดำเนินต่อไป และสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นของรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยการจารกรรมและความลับของรัฐที่ออกโดยทางการจีน กลับมีเข้มงวดยิ่งขึ้น ส่งผลให้บริษัทบางแห่งเกิดความกังวลในการดำเนินการธุรกิจในจีนต่อไป ในขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ฉุดความสนใจของบริษัทต่างชาติออกไป หลังจากหลายบริษัทต้องการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานของจีนมากเกินไป
อย่างไรก็ดี บริษัทต่างชาติบางแห่งเน้นย้ำถึงความกระตือรือร้นที่จะเพิ่มการลงทุนในจีนเป็น 2 เท่า
คุกกล่าวกับสื่อจีนเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาหวังว่าจะเพิ่มการลงทุนของ Apple ในประเทศจีน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์อย่าง iPhone เรือธงของบริษัท สูญเสียพื้นที่ในตลาดไปจากการแข่งขันกับสมาร์ทโฟน Huawei ของจีน อาทิ Mate 60 Pro Plus “ผมคิดว่าจีนกำลังเปิดกว้างจริงๆ และผมดีใจมากที่ได้มาอยู่ที่นี่” คุกกล่าวนอกรอบการประชุม China Development Forum
ในทางตรงกันข้าม นักธุรกิจคนอื่นๆ รวมถึง จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF ต่างรู้สึกกังวลกับอนาคตของจีนมากขึ้น โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ China Development Forum จอร์เจียวากล่าวกับผู้กำหนดนโยบายว่า จีนมีความจำเป็นในการปฏิรูปตลาดแบบสนับสนุนมากขึ้น เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19
แม้จีนจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 5% ในปีที่แล้ว แต่เศรษฐกิจของจีนกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืดและวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ
“จีนกำลังเผชิญกับทางแยก พึ่งพานโยบายที่เคยใช้ได้ผลในอดีต หรือปรับปรุงนโยบายสำหรับยุคใหม่แห่งการเติบโตคุณภาพสูง” จอร์เจียวากล่าว โดยเธอเสนอแนะว่าการปฏิรูปโครงสร้างตลาดของจีน อาจช่วยเพิ่มให้มีเงิน 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 127 ล้านล้านบาท) ไหลเวียนเข้าสู่เศรษฐกิจจีนในอีก 15 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนไปสู่การเติบโตที่เน้นการบริโภคอาจทำได้ยากในระบบเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีอุปสงค์ในประเทศ และความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง ในขณะเดียวกัน ทางการจีนเองต่างพึ่งพาโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มาเป็นเวลานาน เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายต้องเปลี่ยนความคิดเพื่อมุ่งสู่การเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยการบริโภค
แม้จะมีข้อกังวลเหล่านี้ แต่ทางการจีนได้ตั้งเป้าหมาย GDP ในปีนี้ไว้ที่ 5% และทางการจีนยังให้คำมั่นว่าพวกเขาจะสนับสนุนภาคส่วนเชิงกลยุทธ์ต่อไป นอกเหนือไปจากเป้าหมายอื่นๆ ที่กำหนดไว้สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม China Development Forum
ที่มา:
