สำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานเมื่อวันอังคาร (16 ม.ค.) ว่า ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมัชชาประชาชนสูงสุด ซึ่งเป็นรัฐสภาตรายางของเกาหลีเหนือ คิมกล่าวว่าการรวมประเทศกับเกาหลีใต้นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป พร้อมกันนี้ คิมยังเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนสถานะของเกาหลีใต้ให้เป็น "ประเทศที่ไม่เป็นมิตร" ที่แยกออกจากกันกับเกาหลีเหนือ
“เราไม่ต้องการสงคราม แต่เราไม่มีความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงมัน” คิมระบุ ตามรายงานของสำนักข่าว KCNA
ทั้งนี้ สมัชชาประชาชนสูงสุดกล่าวในแถลงการณ์ว่า องค์กร 3 แห่งที่จัดการเรื่องการปรองดองระหว่างเกาหลี ได้แก่ คณะกรรมการเพื่อการรวมประเทศอย่างสันติ สำนักงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งชาติ และสำนักงานการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ (ภูเขาคึมกัง) จะปิดตัวลง
“รัฐที่เป็นศัตรูกันมากที่สุด 2 รัฐ ซึ่งอยู่ในภาวะสงคราม ขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากันอย่างเฉียบแหลมบนคาบสมุทรเกาหลี” สมัชชาประชาชนสูงสุดระบุ ตามรายงานของ KCNA
การยุบหน่วยงานต่างๆ ในครั้งนี้ สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ที่เสื่อมถอยลงจากเดิมลงไปอีก หลังจากเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งเมื่อเร็วๆ นี้
ในวันเดียวกัน ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ วิพากษ์วิจารณ์ความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือที่ต้องการนิยามให้เกาหลีใต้เป็นศัตรูของเกาหลีเหนือ โดยยุนกล่าวว่าสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของเกาหลีเหนือที่ “ต่อต้านความเป็นชาติและไร้ประวัติศาสตร์”
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ม.ค.) เกาหลีเหนือกล่าวว่าประเทศของพวกเขาได้ทำการทดสอบขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งชนิดใหม่ ที่ติดตั้งหัวรบที่มีความเร็วเหนือเสียง ซึ่งเป็นช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากดำเนินการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปฮวาซอง-18 ที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง ในขณะที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ยกระดับการซ้อมรบร่วม ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่าการซ้อมรบดังกล่าวมีไว้เพื่อสำหรับการรุกรานในอนาคต เพื่อตอบโต้การทดสอบอาวุธ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คิมยังได้ออกมาประณามเกาหลีใต้ว่าเป็น “ศัตรูหลัก” และกล่าวถึงความพยายามในการรวมประเทศกับเกาหลีใต้อีกครั้งว่าเป็น “ความผิดพลาดที่เราไม่ควรทำอีกต่อไป”
ที่มา: