ไม่พบผลการค้นหา
กรมการขนส่งทางบก สั่งปรับเจ้าของแท็กซี่ทำอนาจารต่อหน้าผู้โดยสาร ด้านคนขับแท็กซี่ยังหลบหนี เร่งประสานตำรวจติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ผู้เสียหาย รู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้รถสาธารณะ


​เหตุการณ์แท็กซี่อนาจาร ช่วยตัวเองขณะรับรถรับ-ส่งผู้โดยสาร เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้เสียหาย เป็นนักศึกษาหญิง 2 คน เรียกใช้บริการรถแท็กซี่ บริเวณเคหะสมุทรปราการ กม. 30 เพื่อเดินทางไปสถานศึกษา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที 

ขณะเดินทาง คนขับแท็กซี่ ทำอนาจาร โดยไม่สนใจผู้โดยสาร นักศึกษาหญิงทั้ง 2 คน จึงถ่ายภาพ และเผยแพร่ เพื่อเตือนภัยผู้โดยสารคนอื่นๆ ในเฟซบุ๊ก โดยคนขับแท็กซี่รายนี้ไม่ได้มีพฤติกรรมผิดปกติตอนเรียกรถ แต่เมื่อขับรถไปสักพัก คนขับแท็กซี่ ทำท่าทางจะเอื้อมมือมาหยิบถุงบนตักผู้โดยสาร และเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย สังเกตเห็นว่า เขาขับรถมือเดียว 

จากการสอบถามนักศึกษาคนอิ่นๆ ต่างรู้สึกหวาดกลัวเหตุการณ์นี้ เพราะเคยเกิดเหตุแท็กซี่ลวนลามผู้โดยสารบ่อยครั้ง ทำให้ไม่เลือกใช้บริการแท็กซี่ แต่หากจำเป็นก็จะใช้บริการถโดยสารที่เรียกผ่านแอพพลิเคชั่น เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า 

ผลการสำรวจความชุกของปัญหาการคุกคามทางเพศบนระบบขนส่งสาธารณะ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา พบว่า 'รถเมล์' เป็นรถสาธารณะที่เกิดเหตุคนถูกคุกคาม-ล่วงละเมิดมากที่สุด ร้อยละ 50 รองลงมา คือ รถจักรยานยนต์ รถแท็กซี่ รถตู้ และรถไฟฟ้าบีทีเอส

ด้าน กรมการขนส่งทางบก สั่งปรับ ผู้ประกอบการบริษัท เอวี ลีซซิ่ง จำกัด ในฐานะเจ้าของรถแท็กซี่ และเข้ารายงานตัว เนื่องจากมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ฐานไม่ส่งประวัติผู้ขับรถ ปรับ 1,000 บาท และฐานยินยอมให้ผู้ที่ใบอนุญาตสิ้นอายุมาปฏิบัติหน้าที่ ปรับ 2,000 บาท 

รวมทั้ง บันทึกประวัติผู้ขับรถรายนี้ไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ เพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้กระทำผิดซ้ำ และบันทึกประวัติการประกอบการของผู้ประกอบการ หากพบการร้องเรียนผู้ขับรถในสังกัดอีกในฐานความผิดเดิม นายทะเบียนอาจพิจารณาเพิกถอนทะเบียนรถยนต์หรือระงับการจดทะเบียนเพิ่ม สำหรับผู้เสียหาย กรมการขนส่งทางบก แนะนำให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน

รายงานโดย : นิติทัศน์ ถาวรกูล