อาชญากรรม
นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายกู้ร่างผู้เสียชีวิตเรือล่มภูเก็ตสำเร็จ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งไทยและจีนที่ร่วมกันปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายที่ 47 ซึ่งเป็นรายสุดท้าย ที่ติดอยู่ใต้ท้องเรือฟินิกซ์กลางทะเลภูเก็ตได้สำเร็จ หลังจากพยายามมาหลายวัน โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้สนับสนุนการปฏิบัติงานทุกด้านทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ประดาน้ำกองทัพเรือและหน่วยต่าง ๆ รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย และลำเลียงศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือส่งกลับประเทศ
สำหรับการจัดการศพผู้เสียชีวิต 46 ศพ ที่พบก่อนหน้านี้นั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลทุกขั้นตอนอย่างดีที่สุด โดยขณะนี้ได้ตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด พร้อมกับดำเนินการฌาปนกิจแล้ว 39 ศพ และส่งกลับประเทศจีนทั้งหมด 7 ราย
"เงินกองทุนที่รัฐบาลช่วยสมทบให้นั้นขอให้มองถึงอกเขาอกเรา เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย เราต้องร่วมรับผิดชอบตามหลักมนุษยธรรม และหากเกิดขึ้นกับญาติของเราบ้าง เงินมากแค่ไหนก็ไม่อาจทดแทนชีวิตที่สูญเสียไปได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกฝ่ายถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การบังคับใช้กฎหมายเรื่องการตรวจเรือ มาตรฐานความปลอดภัยของเรือ ผู้ขับขี่เรือ ฯลฯ โดยจะต้องทำทุกอย่างอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะช่วงหลังเกิดเหตุเท่านั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกประเทศเกิดความเชื่อมั่น
"วันนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้เกิดความประทับใจและอุ่นใจ แต่ในระยะยาวนั้นธุรกิจท่องเที่ยวทุกประเภทจะต้องมีความปลอดภัยจริง ๆ ทั้งเรือ เครื่องบิน รถบัส รถตู้ รถแท็กซี่ ในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่ดี มีมาตรฐาน อย่างครบวงจร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยนั้นได้จ่ายเงินเยียวยาเรียบร้อยแล้ว 29 คน ประกอบด้วยค่าสินไหมทดแทนโดยบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจ่ายให้กับญาติผู้เสียชีวิต 29 รายๆ ละ 1,000,000 บาท เป็นเงิน 29,000,000 บาท และบริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับญาติผู้เสียชีวิต 29 รายๆ ละ 100,000 บาท
นอกจากนี้ กองทุนเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (กรณีพิเศษ) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบแล้ว 52 ราย เป็นเงิน 29,328,000 บาท แบ่งเป็นกรณีเสียชีวิตจ่ายให้ญาติ 29 ราย เป็นเงิน 29 ล้านบาท กรณีฟื้นฟูจิตใจจำนวน 12 ราย รายละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 240,000 บาท และเงินช่วยเหลือเยียวยากรณีหยุดชะงักการเดินทาง 11 ราย เป็นเงิน 88,000 บาท รวมเงินค่าชดเชยทั้งหมด 61,228,000 บาท ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติม
สำหรับความคืบหน้าด้านคดี พลตำรวจตรีธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการจับกุมตัวน.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล ซึ่งเป็นเจ้าของ และกรรมการผู้จัดการบริษทเรือฟินิกซ์ ตามหมายจับศาล จ.ภูเก็ต โดยทางตำรวจได้แจ้งข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายโดยสาหัสและเสียชีวิต พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วและควบคุมตัวที่ สภ.ฉลอง โดยวันนี้(16 ก.ค.61)จะนำตัวไปฝากขังที่ศาล จ.ภูเก็ต ต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธทุกข้อหา ทั้งนี้พนักงานสอบสวน จะเร่งสอบสวนเพื่อหาความเกี่ยวโยงถึงบุคคลอื่นที่กระทำผิดร่วมด้วยโดยต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้มากกว่านี้ ซึ่งหากการรวบรวมพยานหลักฐานมีการพาดพิงไปถึงใครจะดำเนินการคดี ทั้งหมดไม่มีข้อยกเว้น
พท. แนะ รัฐบาล เปลี่ยนมุมมองคนไทย เกี่ยวกับ 'ทัวร์จีน'
นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้หลายฝ่ายมองนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นปัญหาและภาพลักษณ์ไม่ดี ถึงขนาดที่ผู้บริหารในรัฐบาลออกมาระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นปัญหากับการท่องเที่ยวไทย ซึ่งตนเคยร่วมรับประทานอาหารสนทนากับอดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เมื่อ 2-3 ปีก่อน ท่านได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่คนไทยเคยอัดคลิปตำหนินักท่องเที่ยวจีนบางกลุ่มที่มีกริยาไม่สุภาพ รับประทานอาหารมูมมาม มาเผยแพร่ในทำนองที่ตำหนิติเตียน จนทำให้เกิดกระแสไม่ชอบนักท่องเที่ยวจีนขึ้น ซึ่งท่านได้ให้คำแนะนำว่า คนไทยควรเปลี่ยนมุมมองใหม่ เพราะในแต่ละปีตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีน เข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมากและที่มีปัญหาจริงๆ มีเพียงเล็กน้อย จีนมีประชากรกว่าพันล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีกำลังซื้อสูงจำนวนมาก และคนจีนก็ชอบมาเที่ยวประเทศไทย
ข่าวเกี่ยวข้อง :
