พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรียิ้มกับสื่อระหว่างเดิน และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
โดยก่อนการประชุมนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อจัดแสดงนิทรรศการประชาสัมพันธ์การจัดงาน “Digital Thailand Big Bang 2018” ระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน 2561 ที่อิมแพคชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยนายกฯ ได้กล่าวชื่นชมกิจกรรมโลกเสมือน 3D visualization เมืองอัจฉริยะและดิจิทัลพาร์ค ซึ่งจะช่วยการวางผังเมืองในอนาคต และแก้ไขปัญหาการจราจร
รวมทั้งชื่นชมความสำเร็จของระบบการศึกษาที่ใช้วัฒนธรรมไทยในการก้าวสู่ตลาดโลก อย่างเช่น มวยไทยไอกล้า แอปพลิเคชันเพื่อการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มวยไทยบนโลกดิจิทัล ที่ใช้สอนคนทั่วโลกแล้วกว่า 130 ประเทศ ตลอดจนเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัลฝีมือคนไทยครั้งแรกในไทย 3D Face recognition จุดเริ่มต้นของการตรวจพิสูจน์การมีตัวตน
ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์แปรรูปทุเรียน โดยนายกฯ ได้เยี่ยมชมบูธแสดงสินค้าเกษตรแปรรูปโดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งจัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ และเป็น 1 ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่สามารถขยายตลาด และเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรได้มากขึ้น
ทั้งนี้ นายกฯ ได้ชิมข้าวเหนียวทุเรียนเชื่อม และให้นำไอศกรีมทุเรียนหมอนทองให้รัฐมนตรีในที่ประชุมครม. รับประทานด้วย พร้อมกับชื่นชมผู้ประกอบการที่สามารถเพิ่มมูลค่า และขยายตลาดแปรรูปสินค้าเกษตร ได้มากขึ้น พร้อมระบุว่า นี่คือเรื่องดี ดังนั้นควรต้องเติมเรื่องดีๆ ให้บ้านเมืองบ้าง เพื่อบ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไปได้
สำหรับวาระการประชุมวันนี้ กระทรวงคมนาคม เสนอ แต่งตั้ง นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสนอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยระเบียบการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาวิจัยและนวัตกรรม
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่น ร่างพระราชกฤษฎีกาให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัดเชียงใหม่ พังงา และภูเก็ต
กระทรวงการคลัง เสนอโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้มีรายได้น้อยราว 11.4 ล้านคน ซึ่งเป็นโครงการชั่วคราวโดยมีช่วงดำเนินการ 5-6 เดือน โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับวงเงินคืนภาษีจากการใช้จ่ายได้ไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 11 กันยายน 2561
และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังเตรียมเสนอ มาตรการดูแลค่าครองชีพในระยะ 3 เดือน ให้กับชาวสวนยาง ภายหลังปัญหาราคายางพาราไม่ปรับตัวสูงขึ้น โดย การยางแห่งประเทศไทยได้กำหนดมาตรการไว้แล้วไว้แล้ว อาทิ เกษตรกรชาวสวนยาง ต้องขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย โดยจะมี การคัดเลือกเกษตรกรในพื้นที่ ปลูกยางในพื้นที่ไม่เหมาะสม ปรับเปลี่ยนอาชีพ โดยจะขอสนับสนุนงบประมาณจ่ายขาดจากจากรัฐ ปีละ 4,030 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมครม.เตรียมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ ในตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวง อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน อธิบดีกรมวิชาการเกษตรรวมถึงอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ รวมถึงเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดิน หรือ สปก.