นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากโพสต์ที่แล้วของตน ที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทั้ง 2 ฟากฝั่ง มียอดคนเข้ามาอ่านแล้วกว่าหนึ่งล้านสามแสนราย มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกว่าสามพันคน มีคนกดไลค์กว่าหนึ่งหมื่นห้าพันครั้ง และถูกแชร์ออกอีกไปเกือบสี่พันครั้ง
บางคนคอมเมนท์ว่าจงใจจะเรียกคะแนนจากคน กปปส.เก่าเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่ เข้าใจถูกแล้ว ตนเรียกเพราะหลายๆ คนที่เขารักชาติรักสถาบัน เห็นว่าประเทศกำลังจะไม่ปลอดภัย “อีกแล้ว” “แม้ไม่ได้ชวน ก็พร้อมจะออกมา และไม่ต้องท้า ก็พร้อมจะลุยสู้ ” “เพราะอึดอัดเหลือทน”มีพี่น้องมวลมหาประชาชนหลายท่าน ได้ขอให้ผมนำความคิดเห็นของท่านอื่นๆ จากหลากหลายวงการมา “ชี้เป้า”ให้ได้อ่านกันอีกในวันต่อๆ ไปด้วย ก็ยินดี
ตนเชื่อว่าวันนี้ มีคนไทยจำนวนไม่น้อย ที่ยังคง “หัวร้อน” กับผลงานสุดแสนอัปยศจาก “ระบอบทักษิณ” เลยขอยกมาเตือนความทรงจำกันสักหน่อย จำได้ไหมกับคดีปล่อยเงินกู้เอ็กซิมแบงก์ 4 พันล้าน คดีแปลงสัมปทานมือถือ–ดาวเทียม, คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ 9 พันล้านบาท ให้กับกฤษดามหานคร คดีทุจริตหวยบนดินเลขท้าย 2 และ 3 ตัว นี่ยังไม่นับคดีซื้อขายที่ดินรัชดาฯ ซึ่งศาลตัดสินจำคุก ล้วนแล้วแต่ทำให้ประเทศต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนนับแสนล้าน แต่เจ้าตัวลอยนวลปล่อยให้ผู้อื่นเดินเข้าคุก
ล่าสุดได้อ่านข่าวว่า ป.ป.ช.มีหลักฐานพบว่า คุณทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดี ได้ Skype กับน้องสาว คุณยิ่งลักษณ์ และคุณบุญทรง เพื่อบงการ การจำนำข้าว โดยที่คุณเยาวภาก็รับทราบ จนทำให้วันนี้ลูกหลานไทยต้องก้มหน้าตามชดใช้หนี้สินจากนโยบายจำนำข้าว จำนวนมหาศาลถึง 5 แสนล้านบาท จะต้องใช้เวลานานถึง 16 ปี ที่จะจ่ายหนี้ปีละ 5.9 หมื่นล้าน ได้ครบ ที่สำคัญประเทศชาติจะต้องชดใช้ดอกเบี้ยถึงปีละ 2 หมื่นล้านบาททีเดียว
ที่ยกเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมาก็เพื่อต้องการจะย้ำให้ชัด ว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ใช่การเลือกระหว่าง “ข้างประชาธิปไตย” (จริงหรือ) กับ “ข้างเผด็จการ”(จริงหรือ) แต่ว่าเลือก “ข้างประเทศไทย” กับ “ข้างระบอบทักษิณ” ต่างหาก
สุดท้าย นายสุเทพ ขอทิ้งคำถามตรงๆ ว่าเราคนไทย “จะเลือกอยู่ข้างไหน? ” “จะยอมให้ระบอบทักษิณ กลับมาได้อีกครั้งหรือไม่? ” ยังไม่ต้องตอบกันตอนนี้ เอาไว้ให้ถึงวันที่ 24 มี.ค. แล้วค่อยมาตอบกันที่คูหากาบัตรเลือกตั้ง ขอให้คิดดูดีๆว่า “ยอมกันได้ไหม?”