"ผมมีความภาคภูมิใจเป็นพิเศษที่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในรอบหลายทศวรรษ ที่ลงจากตำแหน่งโดยไม่ได้สร้างสงครามครั้งใหม่" นี่คือช่วงหนึ่งของการกล่าวอำลาตำแหน่งพร้อมแถลงความสำเร็จในรอบสี่ปีที่ผ่านมา ผ่านวิดีโอที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำงานของทรัมป์
ทรัมป์ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จในการสร้างแรงกดดันให้กับชาติมหาอำนาจอย่าง จีน และพาชาติพันธมิตรยืนหยัดขึ้นสู้กับจีนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอีกด้วย อีกทั้งยังกล่าวถึงความพยายามในการสานสัมพันธ์กับชาติในตะวันออกกลาง การพัฒนาคิดค้น วัคซีนต้านโควิด-19 รวมถึงการสร้าง กองกำลังอวกาศสหรัฐฯ ขึ้นเป็นครั้งแรก และกล่าวว่าได้ สร้างเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
"ในฐานะประธานาธิบดี สิ่งสำคัญที่สุดอันดับหนึ่งและสิ่งที่ผมกังวลอยู่ตลอดเวลาก็คือเรื่องผลประโยชน์ของครอบครัวและคนทำงานชาวอเมริกันทั้งหลาย ผมไม่เคยเลือกทำในสิ่งที่ง่ายที่สุด ซึ่งจริงๆแล้วผมได้ทำในสิ่งที่ยากที่สุด ผมไม่เคยต้องการเดินในทางที่จะได้รับคำวิจารณ์น้อยที่สุด ผมเลือกสู้ในศึกที่ยากลำบาก การต่อสู้ที่โหดที่สุด การตัดสินใจที่ยากที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกคุณเลือกให้ผมเข้ามาทำหน้าที่นี้"
หนึ่งในสิ่งที่หลายคนเฝ้ารออยากได้ยินคือถ้อยคำที่สื่อถึงการยอมรับผลการเลือกตั้ง และความจริงใจในการส่งต่ออำนาจอย่างราบรื่นไปยังคณะทำงานของ โจ ไบเดน ซึ่งสิ่งที่ทรัมป์ทำก็คือการอวยพรให้ คณะรัฐบาลชุดใหม่ ประสบความสำเร็จ และมีโชคในการทำงานต่างๆ เพื่อประโยชน์ ความรุ่งเรือง และความปลอดภัยของชาวอเมริกันทุกคน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เลือกที่จะไม่เอ่ยชื่อ โจ ไบเดน ในการอวยพร
"ในสัปดาห์นี้ เราทำการแต่งตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ และขออวยพรให้(คณะรัฐบาลชุดใหม่)ประสบความสำเร็จในการทำให้ชาวอเมริกันปลอดภัยและเจริญรุ่งเรือง"
ทั้งนี้ ผู้สนับสนุนทรัมป์จำนวนมากยังคงเชื่อในแนวคิดที่ว่า ผลการเลือกตั้งถูกโกง และชัยชนะของทรัมป์นั้นถูกขโมยไป แม้ว่าทั้งทางผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่รัฐบาลสังกัดพรรครีพับลิกัน ไปจนถึงเจ้าหน้าที่คณะทำงานในรัฐบาลของทรัมป์เองก็ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่มีหลักฐานใดชี้ว่าแนวคิดนั้นคือเรื่องจริง