ต่างประเทศ
หวั่นเรือ 'โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ลอยน้ำ' เมดอินรัสเซีย ต้นตอโศกนาฏกรรมครั้งใหม่
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียได้จัดพิธีปล่อยเรือ 'อคาเดมิก โลโมโนซอฟ' ออกจากท่าเรือที่เมืองมูร์มังสก์ เพื่อที่จะเดินทางไปยังเมืองเปเวก เมืองท่าในเขตปกครองตนเอง 'ชูคอตกา' ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล และเปรียบได้กับ 'ประตูสู่อาร์กติก' หรือบริเวณขั้วโลกเหนือนั่นเอง
ภารกิจล่องเรือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระจายพลังงานไฟฟ้าไปสู่ประชาชนที่อยู่ในเขตห่างไกล เพราะเรือลำนี้ที่จริงแล้วคือ 'โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ลอยน้ำ' แห่งแรกที่ผลิตและประกอบในรัสเซียทั้งหมด ขณะที่ประชากรราว 4,000 คนในเมืองเปเวกที่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือครั้งนี้ อยู่ห่าง���กลและกันดาร จนไม่อาจเดินทางไปติดตั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานได้ รัฐบาลรัสเซียจึงผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ลอยน้ำขึ้นมา เพื่อจะเคลื่อนที่ไปให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ชนบทอื่นๆ ทั่วประเทศในอนาคตด้วย
ก่อนที่เรือจะออกท่าเมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัทโรสตอม ซึ่งเป็นกิจการรัฐวิสาหกิจด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย และเป็นผู้รับผิดชอบการผลิตเรือ 'อคาเดมิก โลโมโนซอฟ' ได้เปิดให้สื่อมวลชนสำรวจภายในเรือว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร โดยพื้นที่ส่วนที่เปิดเผยต่อสื่อ ได้แก่ ห้องควบคุมเรือ ห้องพักของลูกเรือ ซึ่งแม้จะเป็นห้องขนาดเล็ก แต่ก็พยายามตกแต่งให้มีเครื่องอำนวยความสะดวกคล้ายกับเรือสำราญ ห้องออกกำลังกาย รวมถึงเตาปฏิกรณนิวเคลียร์และแผงวงจรต่างๆ ที่ใช้ในการดำเนินการด้านพลังงาน
ผู้ควบคุมเรือ 'อคาเดมิก โลโมโนซอฟ' เปิดเผยกับรัปลีย์ว่า การเดินทางครั้งนี้รวมเป็นระยะทางทั้งหมดประมาณ 4,640 กิโลเมตร แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าการเดินทางจะใช้เวลาประมาณเท่าใด เพราะขึ้นกับสภาพอากาศในขณะที่แล่นเรือลำนี้ด้วย
ถึงแม้ว่าเรือ 'อคาเดมิก โลโมโนซอฟ' จะมีเป้าหมายที่ดีที่การกระจายพลังงานไปยังพื้นที่ชนบท แต่ก็ทำให้ประเทศอื่นๆ รวมถึงนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมวิตกกังวลว่า 'โรงไฟฟ้าลอยน้ำ' แห่งนี้จะก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมอะไรขึ้นอีกหรือไม่ เพราะจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา โครงการนิวเคลียร์ของรัสเซียเคยมีปัญหาหลายประการ และเป็นสาเหตุให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมากมาก่อน
- ห้องพักและห้องออกกำลังกายของลูกเรืออคาเดมิก โลโมโนซอฟ
นิตยสารไทม์สของสหรัฐอเมริการายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของกลุ่มกรีนพีซ และ 'โรเบิร์ต บีน' ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ในสหรัฐอเมริกา ประกอบรายงานดังกล่าว พร้อมยกตัวอย่างโศกนาฏกรรมนิวเคลียร์ในอดีตที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย เช่น 'เรือคูสก์' เรือดำน้ำนิวเคลียร์ของรัสเซียที่จมลงใน 'ทะเลแบเรนสต์' เมื่อปี 2000 ทำให้ผู้ที่อยู่บนเรือเสียชีวิต 118 ราย
ก่อนหน้านั้นในปี 1989 เรือดำน้ำนิวเคลียร์ 'คอมโซโมเล็ตส์' ก็จมลงที่ทะเลแบเรนสต์เช่นกัน แต่โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดคงหนีไม่พ้น 'เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลระเบิด' เมื่อปี 1986 ซึ่งตอนนั้นบริเวณดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต
ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นิวเคลียร์รั่วไหลที่เชอร์โนบิลมีจำนวนมาก เพราะมีผู้ได้รับผลกระทบในเวลาหลังจากนั้นอีกหลายหมื่นคน และล่าสุด เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุระเบิดที่โรงงานยุทโธปกรณ์ของบริษัทโรสตอมเช่นกัน ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์กับนายทหารเสียชีวิต 5 ราย
แม้รัฐบาลรัสเซียจะยืนยันเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่เกรงว่าโครงการนี้อาจจะสร้างปัญหาขึ้นในอนาคต แต่ถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ก็อาจช่วยแก้ปัญหาเรื่องพลังงานไฟฟ้าให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้เช่นกัน
- เตาพลังงานและห้องควบคุมในเรืออคาเดมิก โลโมโนซอฟ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
