ต่างประเทศ
สหรัฐฯ สงสัยรัสเซีย 'ปกปิดข้อมูล' เหตุระเบิดที่ศูนย์พัฒนาด้านนิวเคลียร์
รอสตอม (Rosatom) กิจการในการกำกับดูแลของรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งกำลังพัฒนาโครงการด้านนิวเคลียร์ต่างๆ แถลงรายละเอียดเพิ่มเติม หลังเกิดเหตุระเบิดขณะที่มีการทดสอบระบบเครื่องยนต์จรวดในเขตของกองทัพเรือ ทางตะวันตกของเมืองเซเวรอดวินสก์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ส.ค.2562 ที่ผ่านมา โดยรอสตอมระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 รายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 รายเป็นนายทหารและพลเรือน ถูกไฟไหม้และมีอาการสาหัส
สำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซีย อ้างอิงเนื้อหาในแถลงการณ์ของรอสตอม ยืนยันว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเป็น 'อุบัติเหตุ' ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญกำลังทดสอบเครื่องยนต์จรวดจากแหล่งพลังงานไอโซโทป
หลังเกิดเหตุระเบิดพบว่า ปริมาณรังสีในพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง พุ่งสูงขึ้น 3 เท่าของค่ามาตรฐาน 0.6 ไมโครซีเวิร์ต แต่เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และยืนยันว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
อาร์ทีรายงานด้วยว่า ท่าทีของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมต่อกรณีระเบิดดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในรัสเซียตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลกำลังปกปิดข้อมูลอะไรบางอย่างหรือไม่ และมีผู้วิตกกังวลว่า เหตุที่เกิดขึ้นอาจร้ายแรงแบบเดียวกับเหตุระเบิดที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในเมืองเชอร์โนบิลของยูเครน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต ครั้งนั้นทางการรัสเซียปิดข่าวนิวเคลียร์รั่วไหลอยู่นานนับสัปดาห์
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงคำแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ตั้งข้อสงสัยเช่นกันว่า รัฐบาลรัสเซียอาจกำลังทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตของกองทัพเรือ และรัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องจับตาดูสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จุดที่เกิดเหตุระเบิดในเมืองเซเวรอดวินสก์ เป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านนิวเคลียร์ อยู่ห่างจากกองทัพเรือของรัสเซียประจำแคว้นอาร์คันเกลสก์ ประมาณ 30 กิโลเมตร โดยฐานทัพดังกล่าวเคยดำเนินโครงการขีปนาวุธข้ามทวีปและระบบยิงต่อต้านขีปนาวุธทางอากาศด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
