สนามบินนาริตะของญี่ปุ่นเริ่มใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า ที่ช่องทางตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เจ้าหน้าที่ 1 คนรับผิดชอบได้ถึง 6 ช่องทาง

สำนักข่าว The Japan Times รายงานว่า สนามบินนาริตะ ในญี่ปุ่นเริ่มใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่ช่องทางตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันแรก เพื่อจุดประสงค์หลักในการลดระยะเวลาในการตรวจสอบคนเดินทางและยกระดับด้านการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน 

โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นได้สาธิตเทคโนโลยีนี้ให้สื่อมวลชนได้ชมกันไปในวันศุกร์ที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเริ่มใช้งานจริงเมื่อวานนี้เป้นวันแรก โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะเปรียบเทียบรูปในหนังสือเดินทางของผู้โดยสารกับรูปที่ถ่ายในช่องตรวจ เมื่อรูปทั้งสองตรงกัน ประตูก็จะเปิดออกโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็จะมีความรวดเร็วกว่าระบบตรวจหนังสือเดินทางแบบปกติมาก

ปัจจุบันมีการใช้เจ้าหน้าที่ 1 คนเพื่อรับผิดชอบช่องทางตรวจคนเข้าเมือง 1 ช่อง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่าเมื่อใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้านี้ เจ้าหน้าที่เพียง 1 คนจะสามารถรับผิดชอบช่องทางตรวจคนเข้าเมืองได้ถึง 6 ช่องในช่วงแรก 

นอกจากนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังวางแผนจะใช้เทคโนโลยีนี้กับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นที่เดินทางกลับเข้าประเทศและจะเพิ่มพนักงานเพื่อรับผิดชอบในการตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศที่กำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการทดลองเปิดใช้ทั้งหมด 31 ประตูอัตโนมัติภายในเทอมินอลระหว่างประเทศทั้ง 3 แห่งในสนามบินนาริตะ

แผนการหลังจากนี้ระบบจดจำใบหน้าจะสามารถนำไปใช้ที่สนามบินแห่งอื่น ๆ อีก 4 แห่งทั่วญี่ปุ่นภายในปีนี้ ประกอบไปด้วย สนามบินนาโกย่า ชูบุเซ็นแทรร์สนามบินคันไซอ่าวนาโกยา สนามบินฟูกุโอกะ สนามบินฮาเนดะ หรือ Tokyo International Airport ซึ่งที่สนามบินฮาเนดะนี่เองที่มีการเริ่มทดสอบใช้งานประตูดังกล่าวไปตั้งแต่เดือนตุลาคมของปี 2017 ที่ผ่านมา

สนามบินชางงีของสิงคโปร์ ประเดิมเปิดใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่วันนี้เป็นวันแรก โดยอาคารผู้โดยสารหลังที่ 4 นี้ เป็นเทอร์มินอลไฮ-เทค ที่ให้บริการเช็กอินด้วยระบบอัตโนมัติทุกขั้นตอน

ตั้งแต่เดินทางถึงสนามบินไปจนขึ้นเครื่องบิน เช่น การสแกนใบหน้า จุดรับฝากกระเป๋าเดินทางด้วยระบบคอมพิวเตอร์ การตรวจหนังสือเดินทาง รวมถึงการตรวจบัตรโดยสารก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยไม่ต้องเจอหน้าของเจ้าหน้าที่ในสนามบินใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 985 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 2.4 หมื่นล้านบาท และจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 16 ล้านคนต่อปี

สำหรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ที่ได้ใช้งานเทอร์มินอลสุดไฮเทคนี้เป็นเที่ยวบินจากสายการบินคาเธย์ แปซิฟิก เส้นทางสิงคโปร์-ฮ่องกง โดยมีผู้โดยสารกว่า 100 คน แรกๆปัญหาติดขัดอยู่บ้าง