ทำนายเทรนด์โลก ถอดรหัสอนาคต ด้วยทิศทางที่แม่นยำ กับรายการ The Toppick ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 07.00น. ทางวอยซ์ทีวี
รัฐบาลเกาหลีใต้ตัดสินใจยกเลิกสถานะประเทศกำลังพัฒนาของ WTO ท่ามกลางความกังวลของภาคเกษตรที่อาจจะสูญเสียสิทธิพิเศษทางการค้า
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศจะยกเลิกสถานะของเกาหลีใต้ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาในการเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) หลังเมื่อเดือนกรกฎาคมประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ จะไม่รับประโยชน์และสิทธิพิเศษต่างๆ ที่มาพร้อมกับสถานะการเป็นประเทศกำลังพัฒนาอีกต่อไป
ฮอง นัมกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้กล่าวว่า 'เกาหลีใต้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่จะจัดตนเองอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา...รัฐบาลเกาหลีใต้จึงตัดสินที่จะไม่ใช้สิทธิพิเศษในฐานะประเทศกำลังพัฒนาอีกต่อไปในการเจรจาขององค์การการค้าโลกในอนาคต'
ที่ผ่านมาทรัมป์แสดงถึงความไม่พอใจในเรื่องกฎ สิทธิพิเศษและข้อยกเว้นทางการค้าต่างๆ ของ WTO โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่นิยามตนเองว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนา ทรัมป์บอกว่า สหรัฐฯ จะไม่เอื้ออำนวยสิทธิพิเศษต่างๆ แก่ประเทศกำลังพัฒนาและไม่จะไม่สนับสนุนการเป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศ OECD
ทรัมป์กล่าวว่า หลายประเทศไม่ควรจะนิยามตนเองอยู่ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊าและประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง รวมไปถึงเกาหลีใต้ที่เป็นสมาชิกของประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สูง (OECD) และขอให้ WTO ทบทวนเงื่อนไขของประเทศสมาชิกต่างๆ ในการจัดกลุ่มทางเศรษฐกิจ
เกาหลีใต้ประกาศตนเป็นประเทศกำลังพัฒนามาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี 1995 เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเกษตรของเกาหลีใต้ที่มีความอ่อนไหวต่อการค้าระหว่างประเทศ
ปัจจุบันเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในสมาชิกของประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียรองจากจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย รวมถึงเป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงประเทศหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย
ทั้งนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ยังกล่าวว่า มีเวลาและทรัพยากรมากพอที่จะช่วยเหลือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการเจรจาทางการค้าในอนาคต โดยเฉพาะผลกระทบทางด้านสินค้าเกษตรของเกาหลีใต้
ทางด้านกลุ่มเกษตรกรชาวนาของเกาหลีใต้ได้ออกมาคัดค้านในการสละสถานะของประเทศกำลังพัฒนา โดยระบุให้รัฐบาลทบทวนการถอนตัวจากการเป็นประเทศกำลังพัฒนา เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีของภาพเกษตรกรรมกว่า 75 ฉบับ และกำแพงภาษีสินค้าเกษตรนำเข้าลดลงเกือบ 0 เปอร์เซ็นต์และไม่มีมาตรการใดๆ ในการแก้ปัญหาเรื่องสินค้าเกษตรจากภายนอกให้แก่เกษตรเกาหลีใต้