ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - IG 'ไคลี เจนเนอร์' มูลค่าแตะภาพละล้านดอลลาร์ - Short Clip
World Trend - ​แฟนต่อคิวซื้อเสื้อผ้า 'เฟนตี' คับคั่ง - Short Clip
World Trend - ภาพวาดฝีมือเอไอถูกประมูลในราคา 14 ล้านบาท - Short Clip
World Trend - เน็ตฟลิกซ์ขึ้นราคาทำลูกค้ารายได้น้อยเลิกดู - Short Clip
World Trend - อินสตาแกรม เพิ่มทางลัดคอมเมนต์ด้วยอีโมจิ - Short Clip
World Trend - แอมะซอนกับการปรับค่าแรงเอาชนะคู่แข่ง - Short Clip
World Trend - ราคาอินเทอร์เน็ตอังกฤษแพงกว่าอินเดีย 25 เท่า - Short Clip
World Trend - มูลค่า 'บิตคอยน์' ตกลงต่ำสุดในรอบเดือน - Short Clip
World Trend - ​'ชุดตรวจดีเอ็นเอสุนัข' ขึ้นแท่นสินค้าฮิตแอมะซอน - Short Clip
World Trend - ​​สตูดิโอใหญ่เลือก 'นิวเม็กซิโก' ทำเลเมืองหนังใหม่ - Short Clip
World Trend - Raspberry Pi รุ่นใหม่อาจปลุกกระแส PC อีกครั้ง - Short Clip
World Trend - 'พลัสไซซ์' ตลาดใหม่เพื่อแฟชั่นที่เท่าเทียม - Short Clip
World Trend - 'เนื้อสัตว์ทดแทน' อุตสาหกรรมใหม่ที่อาจโตอีก 20 เท่า - Short Clip
World Trend - คำสั่งเสียง AI ทำให้เกิดอคติทางเพศสภาพ - Short Clip
World Trend - อีลอน มัสก์ พิจารณาถอน 'เทสลา' ออกจากตลาดหลักทรัพย์ - Short Clip
World Trend - 'หัวเว่ย' เปิดแล็บ 5G ในเกาหลีใต้ - Short Clip
World Trend - นักแสดงผิวสีจัดฉากโดนทำร้าย หวังขึ้นค่าตัว - Short Clip
World Trend - ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์​’ ย้ายค่าย-ผลักดันสัญญาเท่าเทียม - Short Clip
World Trend - ​'วอร์เนอร์บราเธอส์' จ้างซีอีโอหญิงคนแรก - Short Clip
World Trend - นักผดุงครรภ์ใช้ AR ฝึกทำคลอด - Short Clip
World Trend - รีอานนากับโมเดลธุรกิจ 'ขายตรงให้แฟนๆ'
May 22, 2019 06:07

สื่อแฟชั่นชี้ รีอานนาและแบรนด์เฟนตีของเธอจะเปลี่ยนโฉมวงการค้าปลีก ด้วยการยึดหลักขายตรง-ไร้คนกลางกับแฟน ๆ โดยอาศัย 'สตาร์เพาเวอร์' และแรงสนับสนุนจากผู้ติดตามของเธอทางโซเชียลมีเดีย

อย่างที่รายการเวิลด์เทรนด์เคยรายงานไป ที่ว่าหนึ่งในซูเปอร์สตาร์แห่งยุคอย่าง รีอานนา เตรียมจะแตกไลน์สินค้าของตัวเธอเองออกไป ให้ครอบคลุมถึงเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มประเภทต่าง ๆ โดยเป็นเซ็นสัญญาร่วมมือกับเครือแบรนด์หรู LVMH ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนด้านแฟชั่นที่น่าจับตายิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ล่าสุด สื่อแฟชั่น The Fashion Law ได้เผยแพร่บทความถึงคอลเลกชันและทิศทางธุรกิจใหม่ของรีอานนาว่า เธอคนนี้จะเป็นผู้ปฏิวัติโมเดลธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าไฮแบรนด์ตัวจริง ด้วยการข้ามขั้นตอนค้าปลีกแบบเดิม ๆ และมุ่งสู่ตลาดขายตรงออนไลน์ให้กับผู้ติดตามหรือ 'แฟนคลับ' แทน

รีอานนาเป็นหนึ่งในเซเลบริตีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ทั้งยังมีแฟนคลับที่เหนียวแน่นอย่าง 'กลุ่มเนวี' (Navy) ซึ่งไม่เพียงแต่จะสนับสนุนงานเพลงของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นลูกค้าตัวยงของสินค้าต่าง ๆ ที่เธอนำเสนออีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ช่องทางโซเชียลมีเดียหลักของเธออย่าง อินสตาแกรม ก็มีผู้ติดตามมากถึง 71.1 ล้านคน ซึ่งตัวเลขที่ว่าไม่เพียงแต่จะน่าประทับใจในเชิงปริมาณเท่านั้น แต่ผู้ติดตามเหล่านี้ยังมี 'เอนเกจเมนต์' ที่ดีต่อสิ่งที่เธอโพสต์อีกด้วย โดยผลสำรวจหนึ่งในปี 2016 ของ NPD Group ชี้ว่า 'เนวี' มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของศิลปินที่พวกเขารักมากกกว่าซูเปอร์สตาร์ระดับเดียวกันถึง 3.7 เท่า ทำให้รีอานนาเป็นเซเลบริตีที่มีโอกาสทำเงินจากสินค้าต่าง ๆ ได้สูงที่สุดไปทันที

ไลน์สินค้าหนึ่งของรีอานนาอย่าง เฟนตี บิวตี แบรนด์เครื่องสำอางที่จับมือกับ LVMH เจ้าของแบรนด์หรูจำนวนมาก รวมถึงร้านเซโฟรา ก็ใช้ช่องทางนี้เป็นหน้าร้านจำหน่ายคอลเลกชัน โดยไม่เปิดโอกาสให้คนกลางรายอื่น ๆ สามารถเข้ามาทำรายได้ในการกระจายสินค้า ซึ่งการผูกขาดช่องทางการจำหน่ายให้อยู่แค่เพียง เธอกับผู้ซื้อ หรือ เธอและบริษัทพันธมิตรกับผู้ซื้อ เปิดโอกาสให้เธอสามารถปล่อยสินค้าใดเมื่อไรก็ได้ ทั้งแว่นกันแดด ชุดชั้นใน รองเท้า และแอซเซสซอรีอื่น ๆ ไม่ต่างจากการปล่อยซิงเกิลในแต่ละอัลบัม

แนวทางกีดกันร้านค้าปลีกอื่นนี้ไม่ใช่แนวทางใหม่ และมีหลายแบรนด์เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ทั้ง Glossier , Everlane , Cuyana , Reformation และ Outdoor Voices อย่างไรก็ตาม แบรนด์เหล่านี้ไม่ได้มา 'สตาร์เพาเวอร์' เช่นเดียวกับรีอานนา และการที่เครือ LVMH ได้ทำสัญญากับศิลปินระดับนี้ ก็จะเป็นแต้มต่อ ทำให้ก้าวหน้าเหนือคู่แข่งอย่าง แคริงและริชมอนต์ ได้ไม่ยาก ซึ่งในปัจจุบัน ทุกเครือแบรนด์หรูเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการ 'ขายตรง' ให้กับผู้บริโภค โดยตัดคนกลางออกไปมากขึ้นกว่าในสมัยก่อนแล้ว และอัตราการเติบโตของยอดขายประเภทนี้ก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การเปิดไลน์ใหม่ของรีอานนาจึงไม่เพียงเป็นการทำตลาดเพื่อแบรนด์ของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นแบรนด์อื่นให้วางกลยุทธ์เพื่อแข่งขันได้ดีขึ้นด้วย

นอกจากความก้าวหน้าเชิงเศรษฐกิจแล้ว การทำตลาดของรีอานนายังถือเป็นการส่งเสริมนักลงทุนผิวสีให้กล้าเข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นชั้นสูงมากขึ้นอย่างหาตัวจับได้ยาก และอาจกลายเป็นอีกความก้าวหน้าทางสังคมที่ซูเปอร์สตาร์น้อยคนนักจะทำได้

ก่อนหน้านี้ แฟชั่นชั้นสูงมักถูกมองว่าต้องเป็นแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสหรืออิตาลีเป็นหลัก และแม้จะมีดีไซเนอร์ผิวสีที่น่าจับตาและได้รับการยอมรับอยู่บ้าง แต่วงการแฟชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มผู้สร้างสรรค์ผลงาน ก็ยังมีความหลากหลายน้อยกว่าวงการอื่นอยู่มาก ซึ่ง LVMH แม้จะเป็นอีกบริษัทดังจากฝรั่งเศส แต่เมื่อมาจับมือกับศิลปินชาวบาร์เบโดสอย่าง รีอานนา จึงทำให้ภาพลักษณ์ด้านแฟชั่นกว้างขวางขึ้น และเข้าถึงได้จากหลายกลุ่มประชากร

แบรนด์เครื่องสำอาง เฟนตี บิวตี มียอดขายกว่า 100 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,200 ล้านบาท ภายในไม่กี่สัปดาห์แรกของการเปิดตัว ในปีแรกของการก่อตั้ง และทำให้ลูกค้าจำนวนมากต้องต่อคิวใน Waiting Lists เพื่อรอสินค้าใหม่ให้ผลิตทันกับความต้องการ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า การเปิดตัวไลน์เสื้อผ้าใหม่ก็น่าจะทำยอดขายได้ดีไม่แพ้กัน โดยคอลเลกชันแรกจะวางขายวันนี้ (22 พ.ค.) เป็นวันแรกในป็อปอัป-ชอป ในกรุงปารีส ของฝรั่งเศส กับสินค้าโดดเด่น เช่น มินิเดรสราคา 810 ดอลลาร์ (26,000 บาท) แว่นกันแดดราคา 460 ดอลลาร์ (15,000 บาท) และต่างหูราคา 420 ดอลลาร์ (13,000 บาท)

ทั้งหมดนี้ จะทำให้รีอานนากลายเป็นศิลปินที่จับไลน์สินค้ามากที่สุด เช่นเดียวกับที่ วิกตอเรีย เบคแฮม และฝาแฝดโอลเซน ประสบความสำเร็จกับแบรนด์แฟชั่นของพวกเธอ , บียอนเซ ประสบความสำเร็จกับสปอร์ตแวร์ Ivy Park และเดรก ประสบความสำเร็จกับสตรีตแวร์ Very Own และเมื่อประกอบกับโมเดลธุรกิจ รวมไปถึงความนิยมของแฟนคลับต่อตัวเธอและสินค้าที่เธอ 'เลือก' ก็จะยิ่งขับเคลื่อนให้แบรนด์เฟนตีกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ชัดเจน โดดเด่น และมียอดขายสูงติดอันดับได้ไม่ยาก

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog