นักวิทยาศาสตร์ในฝรั่งเศสพบหลักฐานว่าการล่าวาฬเพื่อการค้ามีมานานกว่าที่เคยคาดการณ์ ซึ่งสื่อได้ว่าชาวโรมันโบราณอาจมีอุตสาหกรรมการล่าวาฬที่เป็นระบบ และส่งผลให้ประชากรวาฬบางชนิดใกล้สูญพันธุ์
งานวิจัยโดยศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส หรือ CNRS ระบุว่า การล่าวาฬเชิงพาณิชย์อาจมีมาตั้งแต่ยุคโรมันโบราณ และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชากรวาฬสีเทาและวาฬสีดำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนลดจำนวนลงและใกล้สูญพันธุ์เร็วขึ้น
โดยโครงกระดูกของวาฬทั้งสองชนิดถูกพบบริเวณช่องแคบยิบรอลตาร์ ท่ามกลางซากปรักหักพังของโรงงานหมักปลายุคก่อน และชี้ชัดได้ว่าวาฬเหล่านี้เคยมีอยู่หนาแน่นบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเมื่อราว 2,000 ปีก่อน ใกล้ชายฝั่งของหลายเมืองสำคัญของอาณาจักรโรมันโบราณ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนักวิทยาศาสตร์ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีสัตว์ทั้งสองชนิดนี้อยู่ในยุคนั้น
การที่ประชากรสัตว์ชนิดหนึ่งจะลดจำนวนลงจนเกือบสูญพันธุ์เช่นนี้น่าจะมาจากการล่าอย่างเป็นอุตสาหกรรมของมนุษย์ ซึ่งก่อนหน้านี้นักประวัติศาสตร์เคยเชื่อว่า นักล่าวาฬเชิงพาณิชย์กลุ่มแรกในโลกคือ ชาวบาสก์ ทางตอนเหนือของสเปนและตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสปัจจุบัน ที่อาศัยอยู่เมื่อ 1,000 ปีมาแล้ว แต่การค้นพบล่าสุดกลับชี้ช่วงเวลาที่ขัดกับความเชื่อดังกล่าว แม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าชาวโรมันเคยล่าวาฬจริง
ปัจจุบัน มีประชากรวาฬดำแอตแลนติกเหนือเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 500 ตัว น้อยกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรประมาณการทั้งหมด ขณะที่ วาฬสีเทาเหลืออยู่ราว 26,000 ตัว และพบเห็นได้ในมหาสมุทรแปซิฟิกเท่านั้น