ไมโครซอฟท์จัดงาน 'ไมโครซอฟท์บิลด์' งานประชุมนักพัฒนาประจำปี ระหว่างวันที่ 7 - 9 พฤษภาคม โดยมีการบรรยายคีย์โน้ตที่พูดถึงทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ของบริษัทที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ ซึ่งมีทั้งฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ การเพิ่มประสิทธิภาพผู้ช่วยคำสั่งเสียง และการนำบริการคลาวด์เข้ามาใช้ประโยชน์มากมาย เราจะพาคุณผู้ชมไปอัปเดตกันว่า ไมโครซอฟท์เตรียมจะเพิ่มอะไรใหม่ ๆ เข้ามาบ้างในปีนี้
เริ่มกันที่ พระเอกของงานอย่างระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ที่ปีนี้ไมโครซอฟท์ตั้งใจจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้สะดวกมากขึ้น โดยเปิดตัวฟีเจอร์ 'ยัวร์ โฟน (Your Phone)' ที่เชื่อมต่อสมาร์ตโฟนทุกระบบปฏิบัติการให้สามารถใช้งานผ่านพีซีได้
นอกจากนั้น ยังมีฟีเจอร์ 'ไทม์ไลน์' ที่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่อยู่บนสมาร์ตโฟน ทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอส ขึ้นมาแสดงผลให้เห็นเป็นภาพรวมบนหน้าจอวินโดวส์ 10 ได้ทันที และยังสามารถติดตามได้ว่าเราใช้งานแอปฯ ไหนอยู่ ทำอะไรบ้างในแอปฯ เหล่านั้น และยังเปิดดูประวัติการใช้งาน และกดเพื่อกลับเข้าไปใช้งานได้อีกรอบ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานจัดการกับแอปฯ บนสมาร์ตโฟนผ่านพีซีได้ทันที
ในวินโดวส์เวอร์ชันใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ 'แทปส์' ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการหน้าโปรแกรมต่าง ๆ ได้ภายในหน้าเดียว โดยการตั้งค่า 'เซ็ต' ของแอปฯ ที่ต้องการใช้ไว้เป็นแทปส์ในหน้าต่างเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้เปิดใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ผู้ใช้ยังสามารถใช้ปุ่มอัลเทอร์เนต (Alt) บนคีย์บอร์ด ในการควบคุม รวมถึงสลับแทปส์และหน้าต่างได้อีกด้วย
ด้านคำสั่งเสียงอัจฉริยะนั้น ไมโครซอฟท์ได้ประกาศร่วมมือกับแอมะซอนเมื่อปีที่แล้ว ในการพัฒนา 'คอร์ทานา' ให้ทำงานร่วมกับผู้ช่วยคำสั่งเสียง 'อเล็กซา' ข้ามแพลตฟอร์มกันได้ โดยผู้ใช้สามารถเรียกใช้คอร์ทานาจากลำโพงแอมะซอนเอโค หรือสลับไปเรียกใช้อเล็กซาจากอุปกรณ์ที่รันระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ได้เช่นกัน จากการสาธิตบนเวทีโดยตัวแทนจากทั้งสองบริษัทพบว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ยังไม่ค่อยสมบูรณ์นัก เพราะต้องสั่งให้ระบบเปิดใช้งานคำสั่งเสียงของอีกฝ่ายก่อน ถึงจะใช้งานได้ ซึ่งหากบริษัทพัฒนาให้สามารถออกคำสั่งเสียงใช้งานได้ทันทีจะสะดวกต่อผู้ใช้ไม่น้อย
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังประกาศลดการหักเปอร์เซ็นส่วนแบ่งรายได้จากนักพัฒนาแอปฯ ซึ่งโดยปกติแล้วแอปสโตร์ทั้งหมดจะหักรายได้จากนักพัฒนา 30 เปอร์เซ็นต์ ในการจำหน่ายแอปฯ บนสโตร์ แต่ไมโครซอฟท์ได้ออกนโยบายใหม่ว่าจะขอหักรายได้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งจะทำให้รายได้ไปถึงนักพัฒนาถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เพื่อดึงดูดให้เหล่านักพัฒนาหันมาผลิตแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์มากขึ้น แต่ทั้งนี้ การหักส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลงจะมีผลเฉพาะแอปฯ ที่ใช้งานทั่วไป ไม่รวมถึงเกม และหากไมโครซอฟท์ช่วยโฆษณาแอปฯ นั้น ก็จะได้ส่วนแบ่งจากนักพัฒนาเพิ่มขึ้น
สำหรับการประกาศที่ทำให้ผู้ร่วมงานประหลาดใจไม่น้อยคือ ไมโครซอฟท์นำ 'คิเน็กต์' (Kinect) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่สร้างขึ้นเพื่อใช้กับเครื่องเล่นเกม 'เอ็กซ์บ็อกซ์ (XBOX)' โดยปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นบริการคลาวด์ ซึ่งผู้ใช้สามารถส่งข้อมูลจากกล้องและเซนเซอร์บนตัวคิเน็กต์ไปไว้บนคลาวด์ได้ ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะจัดการข้อมูลเหล่านั้น และส่งกลับเข้ามาเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน
โดยฟีเจอร์และเทคโนโลยีเกือบทั้งหมดของไมโครซอฟท์ที่ถูกนำเสนอไปในงานครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา และเปิดให้เฉพาะนักพัฒนาได้ทดลองใช้เท่านั้น คาดว่าผู้ใช้งานทั่วไปจะสามารถใช้งานได้อย่างเป็นทางการภายในปีนี้
Source
YouTube/Microsoft Developers