คาร์ฟูร์ แบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตดังจากฝรั่งเศส ถอนธุรกิจออกจากประเทศจีน หลังพบว่าไม่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ท้องถิ่นรายใหญ่ได้ โดยหลังจากนี้จะมุ่งหน้าทำตลาดภายในประเทศเป็นหลัก
คาร์ฟูร์ แบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตดังจากฝรั่งเศส ประกาศถอนธุรกิจออกจากประเทศจีน ตามหลังบริษัทตะวันตกจำนวนมาก ที่ไม่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ดังของจีนได้ ประกอบกับการตลาดออนไลน์ที่เข้มข้น ทำให้ผู้ลงทุนจากต่างชาติที่เน้นการเปิดหน้าร้านเสียเปรียบ ซึ่งหลังจากประกาศแผนดังกล่าว มูลค่าหุ้นของคาร์ฟูร์ก็ปรับตัวสูงขึ้น แสดงให้เห็นกระแสตอบรับเชิงบวกจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่
การถอนธุรกิจออกจากจีน ทำให้คาร์ฟูร์สามารถโฟกัสที่ตลาดในฝรั่งเศสได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และน่าจะทำให้บริษัทสามารถรับมือกับการขยายธุรกิจเข้าสู่ยุโรปอย่างแข็งแกร่งของแบรนด์อีคอมเมิร์ซดังอย่างแอมะซอนได้ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทค้าปลีกตะวันตกที่ถอนตัวออกไปแล้ว รวมถึงเทสโกและวอลมาร์ตด้วย ขณะที่ แบรนด์จากเยอรมนีอย่าง เมโทร ที่ยังมีหน้าร้าน 93 แห่งในจีน ก็เตรียมจะขายกิจการในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
คาร์ฟูร์เปิดให้บริการในจีนมาตั้งแต่ปี 1995 และมีการเปลี่ยนผู้บริการครั้งล่าสุดเมื่อปี 2017 เพื่อรับมือกับภาวะยอดขายตก โดยในปี 2018 ที่ผ่านมา ยอดขายรวมตกลงถึง 5.9 เปอร์เซ็นต์ และขาดทุนจากค่าดำเนินการไปราว 32 ล้านยูโร หรือ 1,100 ล้านบาท ขณะที่ หนี้สุทธิ ณ วันที่ขายกิจการให้กับกลุ่มทุนอื่น อยู่ที่ 1,400 ล้านยูโร หรือ 49,000 ล้านบาท โดยคาร์ฟูร์จะยังมีที่นั่งในบอร์ดบริหารของคาร์ฟูร์ ประเทศจีน อยู่ 2 จาก 7 ที่นั่ง และจะยังไม่มีการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ไปอย่างน้อย 4 ปีครึ่งหลังจากนี้