ทางการไทยประกาศยืดเวลาให้กับชาวต่างชาติจากกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีน ผู้ถือวีซ่าสำหรับการเข้ามารักษาพยาบาลในไทย ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะส่งผลดีอย่างยิ่งต่อภาคธุรกิจด้านการรักษาพยาบาลและสุขภาพ รวมถึงรายได้ด้านอื่นๆในภาพรวมก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
มาตรการการยืดวีซ่าให้กับชาวต่างชาติจากกลุ่มประเทศ CLMV และจีน เพื่อให้สามารถใช้เวลาพักรักษาตัวในไทยได้นานขึ้น เป็นหนึ่งในมาตรการของทางการไทยในการยกระดับประเทศในฐานะการเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ MEDICAL WELLNESS TOURISM เพิ่มก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพในระดับโลก
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมาไทยได้ขยายเวลาการพำนักเพื่อรักษาพยาบาลและการใช้บริการด้านสุขภาพของชาวต่างชาติกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว จากเดิม 30 วันเป็น 90 วัน ด้วยอายุของวีซ่า 10 ปี ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ผู้เข้ามารับการรักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ยังยืดเวลาวีซ่าให้กับผู้ติดตามสูงสุดถึง 4 คนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการไทยเปลี่ยนกฎขยายเวลาการพำนักอยู่ในไทยให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาพยาบาล เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการขยายเวลาวีซ่าให้กับประชาชนจากกลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซียในตะวันออกกลางอย่าง บาเรนห์ คูเวต โอมาน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาราเบีย จากเดิมที่สามารถพำนักอยู่ในไทยได้เพียง 1 เดือน ก็เพิ่มเป็น 3 เดือนและมีอายุวีซ่า 10 ปีเช่นเดียวกัน
การขอวีซ่าระยะยาวในลักษณะนี้ ชาวต่างชาติจากกลุ่มประเทศดังกล่าวสามารถที่จะยื่นเรื่องขอวีซ่าครั้งแรกซึ่งจะมีอายุ 5 ปี และสามารถต่ออายุได้อีก 5 ปีในภายหลัง โดยสมาชิกของครอบครัวหรือผู้ติดตามที่สามารถยื่นขอวีซ่าดังกล่าวด้วยได้ก็คือสามีภรรยาและบุตรที่มีอายุไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์
การดำเนินการดังกล่าวรัฐบาลไทยได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ MEDICAL HUB ระยะ 10 ปี ระหว่างปี 2560-2569 เพื่อยกระดับมาตรฐานบริการทางการแพทย์ทั้งของภาครัฐและเอกชนในไทยให้ได้มาตรฐานระดับสากล