ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ประกาศลุยตลาดใหม่ที่กำลังเติบโตอย่าง CLMV พร้อมขยายสาขาในไทยเพิ่มเป็น 50 สาขา ตั้งเป้ารายได้อีก 5 ปี ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ประเมินแนวโน้มธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้ (59) ทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า ยังอยู่ในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท
ขณะที่อานิสงส์ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้ต้นทุนการขนส่งและราคาวัสดุก่อสร้างบางประเภทลดลงด้วย ซึ่งบริษัทจะนำส่วนต่างนี้มาทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ จะไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
ส่วนแผนธุรกิจ 5 ปีจากนี้ จะมุ่งเน้นการขยายสาขาให้ครบ 50 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 40 สาขาทั่วประเทศ โดยใน 3 ปี เปิดเพิ่ม 10 สาขา พร้อมออกไปเปิดตลาดใหม่ในกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะลาว เมียนมา และกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศเกิดใหม่ เศรษฐกิจกำลังเติบโต และให้การยอมรับสินค้าจากไทย ตั้งเป้ารายได้อีก 5 ปี ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท
สำหรับทิศทางการแข่งขันของธุรกิจรับสร้างบ้าน จะเน้นการสร้างนวัตกรรมและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการก่อสร้างมากขึ้น โดยบริษัทได้เปิดตัวระบบก่อสร้างใหม่ “พีดี สตีล เฮ้าส์” หรือระบบบ้านโครงสร้างเหล็กแบบ Wall Frame มีน้ำหนักเบา สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วภายใน 3-6 เดือน บนเนื้อที่จำกัด โดยจะมุ่งเจาะกลุ่มกำลังซื้อระดับราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มกำลังซื้อของตลาดรับสร้างบ้านที่มีฐานใหญ่ที่สุด