อินสตาแกรม เตรียมเพิ่มคุณสมบัติการยืนยันตัวบุคคล ฉลองยอดผู้ใช้งานทะลุ 300 ล้านคน จนกลายเป็นเครือข่ายสังคมใหญ่ที่สุด แซงหน้าทวิตเตอร์ เรียบร้อยแล้ว
จำนวนผู้ใช้งาน อินสตาแกรม เติบโตแบบก้าวกระโดด จนล่าสุดเกิน 300 ล้านคนแล้ว สามารถแซงหน้ารุ่นพี่อย่างทวิตเตอร์ ที่มีผู้ใช้งานราว 284 ล้านคน
หลังจากเฟซบุ๊ก (Facebook) ตัดสินใจซื้อ "อินสตาแกรม" เมื่อเดือนเมษายน 2555(2012) ทำให้เครือข่ายสังคมเพื่อแชร์ภาพนี้ มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการเกิน 300 ล้านคน โดย อินสตาแกรม ระบุว่า ภาพและวิดีโอมากกว่า 70 ล้านชิ้น ถูกส่งต่อไปมาบนเครือข่ายทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ใช้งานดังกล่าว ยังห่างไกลเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้บริการเครือข่ายสังคมอันดับ 1 อย่างเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พัน 3 ร้อย 5 สิบล้านคนทั่วโลก (1.35 พันล้านคน)
การฉลองชัยชนะนี้ ทำให้ อินสตาแกรม เตรียมเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ด้วยการยืนยันตัวบุคคล หรือการเวอริไฟด์ แอคเคาท์ (Verified Account) ซึ่งผู้ใช้จะสามารถสังเกตเห็นป้ายยืนยันจากอินสตาแกรมว่า บัญชีใดเป็นบัญชีของเซเลบที่มีชื่อเสียง , นักกีฬา หรือแบรนด์ดัง คาดว่าคุณสมบัตินี้ จะช่วยให้ปัญหาบัญชีปลอม บนเครือข่ายอินสตาแกรม ลดลง
จุดนี้ อินสตาแกรมระบุชัดเจนว่า จะลงมือลบบัญชีปลอมและบัญชีขยะ หรือสแปมแอคเคาท์ (spam account) ทำให้ผู้ติดตามของผู้ใช้บางบัญชี มีจำนวนลดลงด้วย
อินสตาแกรม เป็นผลงานของ “เควิน ซิสตรอม (Kevin Systrom)” และ “ไมค์ เกรเกอร์ (Mike Krieger)” นักศึกษาสถาบันสแตนฟอร์ด ที่สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อปี 2553 (2010) ซึ่งก่อนหน้านี้ อินสตาแกรม เพิ่งประกาศยอดผู้ใช้งาน 200 ล้านคน ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เท่ากับว่า อินสตาแกรมใช้เวลาไม่ถึง 1 ปี ในการผลักดันยอดผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านคน